โรงพยาบาลเชียงใหม่ ราม chiangmai ram hospital
ENG
ไทย
ENG
ไทย
Toggle navigation
หน้าแรก
(current)
ข่าวสาร
(current)
แพทย์
ค้นหาแพทย์
นัดแพทย์
บริการสำหรับผู้ป่วย
มีเดีย
วารสาร
รายการ TV
บทความสุขภาพ
INFOGRAPHIC
การรักษา
ศูนย์เฉพาะทาง
แผนก
เชียงใหม่ ราม เฮลท์ แอปพลิเคชัน
สิ่งอำนวยความสะดวก
ห้องพักผู้ป่วยใน
บริการอื่นๆ
แพ็กเกจ
แพ็คเกจและโปรโมชั่น
แพ็คเกจคลอด
บริการซื้อแพ็คเกจออนไลน์
เกี่ยวกับเรา
(current)
ติดต่อเรา
ติดต่อเรา
สมัครงาน
Customer Concerns
ค้นหาแพทย์
นัดแพทย์
มีเดีย
วารสาร
รายการ TV
บทความสุขภาพ
INFOGRAPHIC
การรักษา
ศูนย์เฉพาะทาง
แผนก
เชียงใหม่ ราม เฮลท์ แอปพลิเคชัน
สิ่งอำนวยความสะดวก
ห้องพักผู้ป่วยใน
บริการอื่นๆ
แพ็คเกจและโปรโมชั่น
แพ็คเกจคลอด
บริการซื้อแพ็คเกจออนไลน์
ติดต่อเรา
สมัครงาน
Customer Concerns
หน้าแรก
มีเดีย
บทความสุขภาพ
ทำไงดีถ้ามีอะไรติดคอลูก
ทำไงดีถ้ามีอะไรติดคอลูก
December 13 / 2022
สิ่งที่พ่อแม่กลัวจะเจอที่สุดคงหนีไม่พ้นเหตุการณ์ที่ลูกมีสิ่งแปลกปลอมติดคอ เพราะในวัยเด็กย่อมมีพฤติกรรมหยิบสิ่งของต่างๆเข้าปาก อยากรู้อยากเห็น ขาดความระมัดระวัง ซึ่งอาจทำให้ลูกเกิดอาการขาดอากาศหายใจ ดังนั้นนอกจากต้องมีการป้องกันที่ดี พ่อแม่ยังต้องเรียนรู้วิธีช่วยเหลือเบื้องต้นไว้ด้วย เพื่อความปลอดภัยของลูกที่เรารัก
ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ที่ไม่อยากให้เกิดขึ้น สิ่งสำคัญที่สุดคือการป้องกันไว้ก่อน โดยต้องระมัดระวังเป็นพิเศษที่จะไม่ให้หนูน้อยของเราหยิบอะไรที่ไม่สมควรเข้าปาก ไม่ว่าจะเป็นสิ่งแปลกปลอมหรืออาหารที่ทาน ดังนี้
จัดเก็บข้าวของให้เป็นระเบียบ โดยเฉพาะของที่มีขนาดเล็ก ที่เด็กสามารถเอาเข้าคอได้ง่าย
สอนให้เด็กทานอาหารช้าๆ เคี้ยวให้ละเอียด ไม่รีบกลืน
ไม่ทานอาหารขณะนอนราบ
คอยสอนไม่ให้เด็กเอาสิ่งของเข้าปาก
ไม่ให้เด็กวิ่งเล่น หรือพูดคุยขณะมีอะไรอยู่ในปาก
ผลไม้ที่มีเมล็ด ควรเอาเมล็ดออกก่อน และหั่นเป็นชิ้นเล็กๆก่อนป้อนให้เด็กทาน
ถึงแม้ว่าเราจะมีการป้องกันความปลอดภัย และ ระมัดระวังอย่างเต็มที่ แต่ก็มีความเสี่ยงที่ลูกของเราจะซนจนเอา
อะไรต่ออะไรเข้าปากได้อยู่ตลอดเวลา และหากเกิดเหตุการณ์ขึ้น คงจะเป็นฝันร้ายของพ่อแม่อย่างแน่นอน ซึ่งการช่วยเหลือเบื้องต้นเพื่อให้ลูกของเราปลอดภัยนั้น แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ดังนี้
1. เด็กเล็กอายุน้อยกว่า 1 ขวบ
1. ห้ามล้วงคอหากมองไม่เห็นสิ่งที่ติดคออยู่ ที่สำคัญห้ามจับเด็กห้อยหัวแล้วตบหลัง เพราะจะทำให้สิ่งแปลกปลอมเข้าไปในคอลึกขั้น
2. ให้รีบจับเด็กนอนคว่ำบนท่อนแขน โดยให้ศรีษะต่ำกว่าลำตัว ใช้มือที่ไม่ถนัดประคองที่ขากรรไกรเพื่อประคองคอไว้ ใช้สันมือที่ถนัดทุบที่บริเวณกึ่งกลางสะบักอย่างแรง 5 ครั้ง
3. จับเด็กนอนหงายบนท่อนแขน โดยให้ศรีษะต่ำกว่าลำตัว กดนิ้วชี้กับนิ้วกลางลงบนกระดูกกึ่งกลางหน้าอก ต่ำกว่าระดับหัวนมเล็กน้อย และกดติดต่อกันเร็วๆ 5 ครั้ง
4. ทำสลับไปมาระหว่างใช้สันมือกระแทกที่สะบัก 5 ครั้ง และ กดกึ่งกลางหน้าอก 5 ครั้ง จนสิ่งแปลกปลอมหลุดออกมา
5. หากเด็กมีอาการหมดสติ ให้รีบนำส่งโรงพยาบาล และกดหน้าอก 30 ครั้ง สลับกับช่วยหายใจ 2 ครั้ง โดยไม่ต้องคลำชีพจรจนกว่าจะถึงมือแพทย์
2. เด็กอายุมากกว่า 1 ขวบ
1. หากเด็กยังสามารถหายใจได้ พูดได้ ให้ตบหลังเบาๆ จนกว่าสิ่งแปลกปลอมจะหลุดออกมา หากพูดไม่ได้ ให้ยืนด้านหลังเด็ก สอดแขนใต้รักแร้โอบรอบตัว
2. กำมือข้างหนึ่ง ให้ด้านหัวแม่มืออยู่ตรงกึ่งกลางท้องเด็ก เหนือสะดือขึ้นมา มืออีกข้างจับมือที่กำอยู่ รักให้แน่นและกระตุกขึ้นพร้อมกันแรงๆ จนกว่าสิ่งแปลกปลอมจะหลุดออกมา
3. หากเด็กหมดสติ ให้รีบนำส่งโรงพยาบาล โดยช่วยปฐมพยาบาลด้วยการให้เด็กนอนหงาน แล้วจับคางเด็กยกขึ้น ให้ศรีษะแหงนไปด้านหลังให้มากที่สุด เพื่อเปิดทางเดินหายใจ
4. รีบช่วยหายใจทันที โดยบีบจมูกและเป่าลมหายใจเข้าปาก 2 ครั้ง มองหาสิ่งแปลกปลอมก่อนช่วยหายใจ หากมองเห็นให้ใช้นิ้วกวาดสิ่งที่แปลกปลอมออกมา หากมองไม่เห็นหรือไม่มั่นใจ ห้ามใช้นิ้วกวาดเด็ดขาด เพราะอาจทำให้สิ่งแปลกปลอมหลุดเข้าไปลึกขึ้นได้
5. ทำการปั๊มหัวใจโดยกดหน้าอกและช่วยหายใจอย่างต่อเนื่อง เป็นจังหวะ โดยกดหน้าอก 30 ครั้ง ช่วยหายใจ 2 ครั้ง ทำซ้ำกัน 5 รอบ หรือเป็นเวลา 2 นาที จนกว่าจะถึงมือแพทย์ หรือ สิ่งแปลกปลอมหลุดออกมา
การที่สิ่งแปลกปลอมติดคอเด็ก เป็นอันตรายได้มากกว่าที่คิด เพราะหากปล่อยให้สิ่งแปลกปลอมติดคอเด็กจนหายใจไม่ออกเป็นเวลาแค่ 4 นาที สมองก็จะขาดออกซิเจน หัวใจหยุดเต้น และ เสียชีวิตได้ ถึงแม้ว่าจะสามารถปั๊มกลับมาได้ แต่หากเกิดอาการสมองตาย และหลายเป็นเจ้าหญิงนิทราได้ ดังนั้นพ่อแม่ควรดูแลและป้องกันให้ดีที่สุด หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามได้ที่ โรงพยาบาลเชียงใหม่ ราม แผนกผู้ป่วยนอกเด็ก โทร.053-920300 ต่อ 5123-5125