ทำไงดีถ้ามีอะไรติดคอลูก
December 13 / 2022

 

 

สิ่งที่พ่อแม่กลัวจะเจอที่สุดคงหนีไม่พ้นเหตุการณ์ที่ลูกมีสิ่งแปลกปลอมติดคอ  เพราะในวัยเด็กย่อมมีพฤติกรรมหยิบสิ่งของต่างๆเข้าปาก  อยากรู้อยากเห็น  ขาดความระมัดระวัง  ซึ่งอาจทำให้ลูกเกิดอาการขาดอากาศหายใจ  ดังนั้นนอกจากต้องมีการป้องกันที่ดี  พ่อแม่ยังต้องเรียนรู้วิธีช่วยเหลือเบื้องต้นไว้ด้วย  เพื่อความปลอดภัยของลูกที่เรารัก

                ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ที่ไม่อยากให้เกิดขึ้น  สิ่งสำคัญที่สุดคือการป้องกันไว้ก่อน  โดยต้องระมัดระวังเป็นพิเศษที่จะไม่ให้หนูน้อยของเราหยิบอะไรที่ไม่สมควรเข้าปาก  ไม่ว่าจะเป็นสิ่งแปลกปลอมหรืออาหารที่ทาน  ดังนี้

  • จัดเก็บข้าวของให้เป็นระเบียบ  โดยเฉพาะของที่มีขนาดเล็ก  ที่เด็กสามารถเอาเข้าคอได้ง่าย

  • สอนให้เด็กทานอาหารช้าๆ  เคี้ยวให้ละเอียด  ไม่รีบกลืน

  • ไม่ทานอาหารขณะนอนราบ

  • คอยสอนไม่ให้เด็กเอาสิ่งของเข้าปาก

  • ไม่ให้เด็กวิ่งเล่น หรือพูดคุยขณะมีอะไรอยู่ในปาก

  • ผลไม้ที่มีเมล็ด  ควรเอาเมล็ดออกก่อน  และหั่นเป็นชิ้นเล็กๆก่อนป้อนให้เด็กทาน

ถึงแม้ว่าเราจะมีการป้องกันความปลอดภัย และ ระมัดระวังอย่างเต็มที่  แต่ก็มีความเสี่ยงที่ลูกของเราจะซนจนเอา

อะไรต่ออะไรเข้าปากได้อยู่ตลอดเวลา  และหากเกิดเหตุการณ์ขึ้น  คงจะเป็นฝันร้ายของพ่อแม่อย่างแน่นอน  ซึ่งการช่วยเหลือเบื้องต้นเพื่อให้ลูกของเราปลอดภัยนั้น  แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม  ดังนี้

1.  เด็กเล็กอายุน้อยกว่า 1 ขวบ

                1.  ห้ามล้วงคอหากมองไม่เห็นสิ่งที่ติดคออยู่  ที่สำคัญห้ามจับเด็กห้อยหัวแล้วตบหลัง  เพราะจะทำให้สิ่งแปลกปลอมเข้าไปในคอลึกขั้น

                2.  ให้รีบจับเด็กนอนคว่ำบนท่อนแขน  โดยให้ศรีษะต่ำกว่าลำตัว  ใช้มือที่ไม่ถนัดประคองที่ขากรรไกรเพื่อประคองคอไว้  ใช้สันมือที่ถนัดทุบที่บริเวณกึ่งกลางสะบักอย่างแรง 5 ครั้ง

                3.  จับเด็กนอนหงายบนท่อนแขน  โดยให้ศรีษะต่ำกว่าลำตัว  กดนิ้วชี้กับนิ้วกลางลงบนกระดูกกึ่งกลางหน้าอก  ต่ำกว่าระดับหัวนมเล็กน้อย  และกดติดต่อกันเร็วๆ 5 ครั้ง

                4.  ทำสลับไปมาระหว่างใช้สันมือกระแทกที่สะบัก 5 ครั้ง และ กดกึ่งกลางหน้าอก 5 ครั้ง  จนสิ่งแปลกปลอมหลุดออกมา

                5.  หากเด็กมีอาการหมดสติ  ให้รีบนำส่งโรงพยาบาล  และกดหน้าอก 30 ครั้ง สลับกับช่วยหายใจ 2 ครั้ง โดยไม่ต้องคลำชีพจรจนกว่าจะถึงมือแพทย์

2.  เด็กอายุมากกว่า 1 ขวบ

                1.  หากเด็กยังสามารถหายใจได้  พูดได้  ให้ตบหลังเบาๆ  จนกว่าสิ่งแปลกปลอมจะหลุดออกมา  หากพูดไม่ได้  ให้ยืนด้านหลังเด็ก  สอดแขนใต้รักแร้โอบรอบตัว

                2.  กำมือข้างหนึ่ง  ให้ด้านหัวแม่มืออยู่ตรงกึ่งกลางท้องเด็ก เหนือสะดือขึ้นมา  มืออีกข้างจับมือที่กำอยู่  รักให้แน่นและกระตุกขึ้นพร้อมกันแรงๆ  จนกว่าสิ่งแปลกปลอมจะหลุดออกมา

                3.  หากเด็กหมดสติ  ให้รีบนำส่งโรงพยาบาล  โดยช่วยปฐมพยาบาลด้วยการให้เด็กนอนหงาน แล้วจับคางเด็กยกขึ้น  ให้ศรีษะแหงนไปด้านหลังให้มากที่สุด  เพื่อเปิดทางเดินหายใจ

                4.  รีบช่วยหายใจทันที  โดยบีบจมูกและเป่าลมหายใจเข้าปาก 2 ครั้ง  มองหาสิ่งแปลกปลอมก่อนช่วยหายใจ  หากมองเห็นให้ใช้นิ้วกวาดสิ่งที่แปลกปลอมออกมา  หากมองไม่เห็นหรือไม่มั่นใจ  ห้ามใช้นิ้วกวาดเด็ดขาด  เพราะอาจทำให้สิ่งแปลกปลอมหลุดเข้าไปลึกขึ้นได้

                5.  ทำการปั๊มหัวใจโดยกดหน้าอกและช่วยหายใจอย่างต่อเนื่อง  เป็นจังหวะ  โดยกดหน้าอก 30 ครั้ง  ช่วยหายใจ 2 ครั้ง  ทำซ้ำกัน 5 รอบ  หรือเป็นเวลา 2 นาที  จนกว่าจะถึงมือแพทย์  หรือ  สิ่งแปลกปลอมหลุดออกมา

                การที่สิ่งแปลกปลอมติดคอเด็ก  เป็นอันตรายได้มากกว่าที่คิด  เพราะหากปล่อยให้สิ่งแปลกปลอมติดคอเด็กจนหายใจไม่ออกเป็นเวลาแค่ 4 นาที  สมองก็จะขาดออกซิเจน  หัวใจหยุดเต้น และ เสียชีวิตได้  ถึงแม้ว่าจะสามารถปั๊มกลับมาได้  แต่หากเกิดอาการสมองตาย และหลายเป็นเจ้าหญิงนิทราได้  ดังนั้นพ่อแม่ควรดูแลและป้องกันให้ดีที่สุด  หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามได้ที่ โรงพยาบาลเชียงใหม่ ราม แผนกผู้ป่วยนอกเด็ก โทร.053-920300 ต่อ 5123-5125