วิธีทดสอบภูมิแพ้ด้วยการเจาะเลือด Allergy Blood Test
May 06 / 2025

เจาะเลือด

ปัจจุบันโรคภูมิแพ้เป็นปัญหาสุขภาพที่พบได้บ่อยขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ ซึ่งอาการแพ้แต่ละคนก็แตกต่างกันไป บางคนเป็นหนักจนอาจกระทบกับคุณภาพชีวิต แต่โชคดีที่ในยุคนี้เราสามารถตรวจหาสารก่อภูมิแพ้ได้อย่างแม่นยำ โดยหนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยมและปลอดภัยคือ การตรวจภูมิแพ้ด้วยการเจาะเลือด หรือที่เรียกว่า Allergy Blood Test

 

บทความนี้จะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับการตรวจภูมิแพ้ด้วยวิธีเจาะเลือด ว่าคืออะไร เหมาะกับใครบ้าง รวมถึงข้อดี ข้อจำกัด

การทดสอบภูมิแพ้ด้วยการเจาะเลือด

การตรวจภูมิแพ้ด้วยการเจาะเลือด หรือที่เรียกกันว่า Allergy Blood Test เป็นหนึ่งในวิธีที่แพทย์ใช้เพื่อวินิจฉัยว่าเรามีอาการแพ้จากสารใดบ้าง โดยเป็นการเจาะเลือดเพียงเล็กน้อยเพื่อนำไปวิเคราะห์หาภูมิคุ้มกันชนิดที่เรียกว่า IgE (Immunoglobulin E) ซึ่งร่างกายจะสร้างขึ้นเมื่อเรามีปฏิกิริยาต่อสารก่อภูมิแพ้ เช่น ฝุ่นละออง เกสรดอกไม้ หรือ อาหารบางชนิด

ขั้นตอนการตรวจภูมิแพ้ด้วยการเจาะเลือด

1. ซักประวัติ

ก่อนจะเริ่มตรวจ แพทย์จะซักประวัติเกี่ยวกับอาการแพ้เช่น ประวัติสุขภาพ โรคประจำตัว อาการที่เป็นภูมิแพ้ เป็นต้น ซึ่งจะช่วยให้แพทย์สามารถ เลือกกลุ่มสารก่อภูมิแพ้ที่เหมาะสมกับเรามาตรวจ

2. เจาะเลือด

เมื่อแพทย์กำหนดกลุ่มสารก่อภูมิแพ้ที่ต้องการตรวจแล้ว ต่อไปจะทำการเจาะเลือดเล็กน้อย (ประมาณ 3–5 มิลลิลิตร) 

3. ส่งเลือดเข้าห้องแล็บ

ตัวอย่างเลือดจะถูกส่งไปยังห้องแล็บการเพื่อวิเคราะห์หาปริมาณ IgE ต่อสารก่อภูมิแพ้แต่ละชนิด

4. รอผลตรวจ

โดยทั่วไปจะใช้เวลาประมาณ 3–7 วัน ผลลัพธ์ที่ได้จะระบุระดับ IgE ต่อสารต่าง ๆ กล่าวคือระดับแอนติบอดี IgE ที่ร่างกายสร้างขึ้นเพื่อตอบสนองต่อสารก่อภูมิแพ้แต่ละชนิด หากพบว่าระดับแอนติบอดี IgE สูงกว่าค่าปกติ แสดงว่าร่างกายมีความไวต่อสารก่อภูมิแพ้ชนิดนั้น ๆ

5. แพทย์จะให้คำแนะนำในการรักษา และ หลีกเลี่ยง

เมื่อผลตรวจออกแล้ว แพทย์จะอธิบายอย่างละเอียดว่าเราแพ้อะไรบ้าง ระดับความรุนแรงการแพ้มาก - น้อยแค่ไหน และควรหลีกเลี่ยงกับสิ่งที่จะทำให้เกิดอาการแพ้

ข้อดีของการตรวจด้วยวิธีเจาะเลือด

1. สามารถเข้ารับการตรวจได้แม้มีปัญหาผิวหนัง

 

ในกรณีที่ผู้ป่วยมีผื่น คัน ผิวอักเสบ หรือเป็นโรคทางผิวหนัง การทดสอบภูมิแพ้ด้วยสะกิดผิวหนังอาจทำได้ยากหรือทำแล้วอ่านผลไม่ชัด การเจาะเลือดจึงเป็นทางเลือกที่แม่นยำกว่า เพราะไม่ต้องทำการทดสอบบนผิวหนังผู้ป่วย

2. ตรวจหาสิ่งที่ทำให้เกิดถูมิแพ้ได้หลายชนิดในครั้งเดียว

การเจาะเลือดสามารถตรวจหา IgE ต่อสารก่อภูมิแพ้ได้หลายชนิดพร้อมกัน (มากกว่า 30 ชนิด) โดยไม่ต้องทำการทดสอบหลายรอบ ซึ่งจะช่วยประหยัดเวลาลงเป็นอย่างมาก

3. ตรวจสอบด้วยเครื่องมือที่ได้มาตรฐาน

ผลการตรวจจากเลือดจะถูกวิเคราะห์ในห้องแล็บโดยใช้เครื่องมือที่มีความแม่นยำสูง ซึ่งสามารถบอกระดับการตอบสนองของร่างกายต่อสารภูมิแพ้ต่าง ๆ ได้ละเอียด ทำให้แพทย์สามารถวางแผนการรักษาได้อย่างเหมาะสม

4. ไม่ต้องหยุดยาแก้แพ้หรือเตรียมตัวก่อนมาตรวจ

บทความที่เกี่ยวข้องกับโรคภูมิแพ้

รวมวิธีตรวจโรคภูมิแพ้แต่ละแบบ

สาเหตุ อาการและวิธีรักษาโรคภูมิแพ้มีอะไรบ้าง