ปัญหาการคลอดก่อนกำหนดสามารถเกิดขึ้นได้ด้วยหลายสาเหตุ และอาจส่งผลกระทบต่อทารกมากกว่าที่หลายคนคิด ที่อาจทำให้อวัยวะของทารกยังพัฒนาไม่เต็มที่ส่งผลต่อการหายใจ ระบบประสาท การย่อยอาหาร หรือแม้กระทั่งพัฒนาการในระยะยาว ในบทความนี้จะพาไปรู้จักว่า ภาวะคลอดก่อนส่งผลกระทบต่อทารกมากแค่ไหน
โดยปกติแล้วการตั้งครรภ์จะใช้เวลาประมาณ 40 สัปดาห์ หรือประมาณ 9 เดือนกว่า ๆ ซึ่งเป็นช่วงที่ทารกในครรภ์มีการพัฒนาอวัยวะต่าง ๆ ได้อย่างเต็มที่
แต่ในบางครั้ง คุณแม่บางคนอาจเกิดภาวะที่เรียกว่า "คลอดก่อนกำหนด" ซึ่งหมายถึง การคลอดที่เกิดขึ้นก่อนอายุครรภ์ครบ 37 สัปดาห์ ซึ่งยิ่งคลอดเร็วเท่าไหร่ ความเสี่ยงที่ทารกจะมีปัญหาสุขภาพก็จะยิ่งเพิ่มขึ้นเท่านั้น
ระยะการคลอดก่อนกำหนดสามารถแบ่งออกได้ดังนี้
Late preterm มีอายุครรภ์ 34 – 36 สัปดาห์
Very preterm มีอายุครรภ์ 28 – 33 สัปดาห์
Extremely preterm มีอายุครรภ์ 28 สัปดาห์
ทารกที่คลอดก่อนกำหนดมักมีปัญหาเรื่องการพัฒนาของปอดไม่สมบูรณ์ โดยที่ทารกขาดสาร Surfactant ที่ช่วยให้ปอดขยายตัวทำให้เกิดภาวะหายใจลำบาก หรือที่เรียกว่า Respiratory Distress Syndrome (RDS) ทารกกลุ่มนี้จึงต้องได้รับการดูแลด้วยการให้ออกซิเจน หรือใช้เครื่องช่วยหายใจ และบางรายอาจต้องได้รับสาร Surfactant เสริมผ่านท่อช่วยหายใจทันทีหลังคลอด
ทารกที่คลอดก่อนกำหนดจะมีไขมันใต้ผิวน้อย ทำให้ร่างกายสูญเสียความร้อนได้ง่ายกว่าทารกที่คลอดครบกำหนด จึงไม่สามารถรักษาอุณหภูมิของร่างกายให้อยู่ในระดับที่ปลอดภัยได้ด้วยตัวเอง หากร่างกายเย็นเกินไปอาจส่งผลต่อระบบการหายใจ ระบบไหลเวียนเลือด และระบบเผาผลาญในร่างกาย แพทย์จึงจำเป็นต้องนำทารกเข้าไปอยู่ในตู้อบและดูแลใกล้ชิด
ความเสี่ยงที่สำคัญคือลำไส้และกระเพาะอาหารยังไม่สามารถดูดซึมหรือย่อยน้ำนมได้ดี การให้น้ำนมควรให้ทีละน้อย ๆ ไม่ควรให้ทีละมาก ๆ เพราะอาจจะทำให้ลำไส้เน่าได้ ทารกบางรายอาจต้องให้อาหารผ่านทางหลอดเลือดเพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่จำเป็น และยังต้องระวังภาวะลำไส้อักเสบรุนแรง (NEC – Necrotizing Enterocolitis) ซึ่งเป็นภาวะที่พบได้ในทารกคลอดก่อนกำหนดและอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต
ภาวะเลือดออกในสมอง มักจะเกิดขึ้นในทารกที่คลอดก่อนกำหนด เนื่องจากหลอดเลือดในสมองของทารกมีความเปราะบางมาก อาจทำให้หลอดเลือดแตกและมีเลือดออกในโพรงสมอง ซึ่งหากเลือดออกมากจนกดเนื้อสมอง จะส่งผลต่อพัฒนาการทางสมอง และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดความพิการทางสติปัญญา ทารกกที่มีความเสี่ยงอาจจะต้องได้รับการอัลตราซาวด์กะโหลกศีรษะ
ระบบภูมิคุ้มกันของทารกที่คลอดก่อนกำหนดยังไม่สมบูรณ์ ทำให้ไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อจากแบคทีเรียหรือไวรัสต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี ฉะนั้นแล้วทารกจึงต้องได้รับการดูแลในสภาพแวดล้อมที่ปลอดเชื้อ และอยู่ภายใต้การเฝ้าระวังจากแพทย์อย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันการติดเชื้อในกระแสเลือดหรืออวัยวะสำคัญต่าง ๆ
ในทารกคลอดก่อนกำหนด หลอดเลือดที่จอประสาทตายังพัฒนาไม่สมบูรณ์ โดยเฉพาะบริเวณที่ยังไม่มีหลอดเลือดมาเลี้ยงจะมีความไวต่อการเปลี่ยนแปลงของระดับออกซิเจนในเลือด ทำให้เกิดการสร้างหลอดเลือดใหม่ผิดปกติร่วมกับพังผืด ซึ่งพังผืดเหล่านี้อาจดึงรั้งจอประสาทตาปกติให้หลุดลอกออกมา จนกลายเป็นพังผืดหนาอยู่ด้านหลังแก้วตา ส่งผลให้การมองเห็นสูญเสียลงอย่างถาวร หรืออาจทำให้ตาบอดได้ในที่สุด
คุณแม่ควรรู้ไว้การป้องกันการคลอดก่อนกำหนดเพื่อสุขภาพของลูกน้อยในระยะยาวแม้ว่าการคลอดก่อนกำหนดจะไม่สามารถป้องกันได้ 100% เพราะบางกรณีอาจเกิดจากปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ เช่น พันธุกรรม หรือความผิดปกติของร่างกาย แต่สามารถลดความเสี่ยงและดูแลครรภ์ให้ปลอดภัยได้ด้วยการปฏิบัติตัวให้เหมาะสมระหว่างตั้งครรภ์
การฝากครรภ์ตั้งแต่เนิ่น ๆ ภายใน 12 สัปดาห์แรก ช่วยให้แพทย์สามารถประเมินความเสี่ยงต่าง ๆ ได้ตั้งแต่ต้น เช่น มดลูกมีรูปร่างผิดปกติ ปากมดลูกเปิดเร็ว หรือโรคประจำตัวของแม่ที่ต้องควบคุม เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันสูง และสามารถเฝ้าระวังอาการที่อาจนำไปสู่การคลอดก่อนกำหนดได้ทันเวลา
คุณแม่ควรพักผ่อนให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมที่ต้องใช้แรงมาก งดบุหรี่ แอลกอฮอล์ รวมถึงควรรับประทานอาหารที่เหมาะสมตลอดการตั้งครรภ์ เพราะปัจจัยเหล่านี้ล้วนส่งผลต่อสุขภาพของรก และการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์โดยตรง
รวมโภชนาการอาหารสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์
หากคุณแม่มีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง หรือเคยมีประวัติแท้งลูกหรือคลอดก่อนกำหนดมาก่อน ต้องแจ้งให้แพทย์ทราบ เพื่อวางแผนการดูแลที่เหมาะสม เช่น การให้ยาเพื่อลดการบีบตัวของมดลูก หรือการฉีดยาเสริมเพื่อเร่งให้ปอดทารกพัฒนาเร็วขึ้นหากมีแนวโน้มจะคลอดก่อนกำหนด
สัญญาณเตือนที่อาจเป็นจุดเริ่มของการคลอดก่อนกำหนด ได้แก่ มีเลือดออกทางช่องคลอด ปวดท้องเป็นจังหวะคล้ายเจ็บครรภ์ น้ำเดิน หรือรู้สึกถึงแรงกดบริเวณกระดูกเชิงกราน หากพบอาการเหล่านี้ควรรีบพบแพทย์โดยเร็วที่สุด
ความเครียดสะสมมีผลต่อระดับฮอร์โมนในร่างกาย ซึ่งอาจกระตุ้นให้เกิดการคลอดก่อนกำหนดได้เช่นกัน ดังนั้นการทำให้รู้สึกผ่อนคลาย ดูแลจิตใจ มีส่วนสำคัญอย่างมากในการช่วยให้คุณแม่ตั้งครรภ์ได้อย่าง ปลอดภัย
อ่านเนื้อหาเกี่ยวกับฝากครรภ์
รายละเอียดการฝากครรภ์กับโรงพยาบาล
ประโยชร์การฝากครรภ์ไว้กับโรงพยาบาล
หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการคลอด การตั้งครรภ์ สามารถสอบถามได้ที่แผนกสูติ-นรีเวช โรงพยาบาลเชียงใหม่ ราม โทร 052-004699 ต่อ 1500