สำหรับคุณแม่มือใหม่หลายคนอาจสงสัยว่าการฝากครรภ์ควรเที่จะเริ่มฝากเมื่อไหร่ดี และการฝากครรภ์ที่โรงพยาบาลจะดีกว่าการดูแลตัวเองที่บ้านยังไง จริงๆ แล้วการฝากครรภ์เป็นสิ่งสำคัญมากที่ช่วยให้คุณแม่และลูกในท้องได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม ถูกด้องตั้งแต่ช่วงแรกของการเริ่มตั้งครรภ์ และยังช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดภาวะแทรกซ้อน รวมไปถึงเตรียมพร้อมสำหรับการคลอดลูกออกมาให้ปลอดภัย แข็งแรง
บทความนี้จะพาคุณแม่มือใหม่ไปทำความเข้าใจว่าทำไมถึงการฝากครรภ์กับโรงพยาบาลจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด เพื่อให้คุณแม่สามารถตัดสินใจฝากครรภ์ที่โรงพยาบาลเพื่อการดูแลสุขภาพทั้งตัวเองและลูกน้อยได้อย่างปลอดภัยที่สุด
การฝากครรภ์ที่โรงพยาบาลเป็นประโยชน์อย่างมากที่จะช่วยให้คุณแม่และลูกน้อยในครรภ์ได้รับการดูแลอย่างถูกต้องตลอดระยะเวลาระหว่างคลอดไปจนถึงหลังคลอด หลายคนอาจคิดว่าร่างกายตัวเองแข็งงแรงอยู่แล้วไม่ต้องฝากครรภ์กับโรงพยาบาลก็ไม่น่ามีอะไรเกิดขึ้น แต่จริง ๆ แล้วการเริ่มต้นตั้งครรภ์เป็นช่วงเวลาที่ร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก และบางทีอาจะเกิดภาวะหรือโรคแทรกซ้อนระหว่างตั้งครรภ์ได้ ฉะนั้นการฝากครรภ์จึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันความเสี่ยงและช่วยให้การตั้งครรภ์ดำเนินไปอย่างปลอดภัยราบรื่นมากที่สุด
ทารกในครรภ์จำเป็นต้องการการดูแลตั้งแต่ช่วงแรกของการตั้งครรภ์ เนื่องจากทารกจะมีการเจริญเติบโตของอวัยวะต่าง ๆ ทีมแพทย์จะช่วยติดตามว่าทารกเติบโตตามเกณฑ์หรือไม่ โดยใช้วิธีต่าง ๆ เช่น
อัลตราซาวด์: เพื่อตรวจดูการเจริญเติบโตของทารก การเต้นของหัวใจ และการเคลื่อนไหว
ตรวจฟังเสียงหัวใจทารก: เพื่อตรวจสอบว่าหัวใจของลูกเต้นเป็นปกติหรือไม่
ตรวจเลือดแม่: เพื่อตรวจหาโรคทางพันธุกรรมที่อาจส่งต่อไปยังลูก
หากแพทย์พบความผิดปกติหรือความเสี่ยงที่อาจส่งผลทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนระหว่างตั้งครรภ์ แพทย์จะให้คำแนะนำและดำเนินการรักษาได้อย่างทันท่วงที
ภาวะแทรกซ้อนระหว่างตั้งครรภ์สามารถเกิดขึ้นได้ แม้ว่าคุณแม่จะรู้สึกมีสุขภาพที่แข็งแรง โดยเฉพาะภาวะที่เป็นอันตรายและไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้า เช่น
ภาวะครรภ์เป็นพิษ: เป็นภาวะที่ความดันโลหิตสูงมากกว่าหรือเท่ากับ 140/90 มิลลิเมตร (มม.) ปรอท ร่วมกับมีภาวะโปรตีนหรือไข่ขาวปนอยู่ในปัสสาวะและอาจมีอาการบวม มักเกิดขึ้นในช่วงอายุครรภ์มากกว่า 20 สัปดาห์ขึ้นไป อาจเสี่ยงต่อการคลอดก่อนกำหนด
โรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์: อาจส่งผลกระทบให้ทารกมีร่างกายใหญ่กว่าปกติ ทำให้ขณะดำเนินการคลอดเป็นอันตรายต่อตัวทารก หลังจากคลอดออกมาระบบการหายใจของทารกอาจมีปัญหาไม่สามารถหายใจเองได้
ภาวะโลหิตจางขณะตั้งครรภ์: ทำให้คุณแม่เหนื่อยง่าย รู้สึกอ่อนเพลีย หน้ามืด เวียนศีรษะ ส่งผลให้เสี่ยงต่อการคลอดก่อนกำหนด น้ำหนักทารกแรกเกิดต่ำกว่าเกณฑ์
การตรวจพบภาวะแทรกซ้อนตั้งแต่เนิ่น จะช่วยให้แพทย์สามารถวินิจฉัย ให้คำแนะนำเพื่อรักษาและป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นเพื่อทำให้สุขภาพทั้งแม่และเด็กปลอดภัยสมบูรณ์
โภชนาการของแม่ที่ดีส่งผลโดยตรงต่อพัฒนาการของลูกในครรภ์ หากได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ ทารกอาจเจริญเติบโตช้าหรือเสี่ยงต่อภาวะขาดสารอาหาร หากมีการฝากครรภ์ไว้กับโรงพยาบาลแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะให้ให้คำแนะนำการโภชนาการอาหารอย่างครบถ้วนเพื่อพัฒนาการที่ดีของทารกในครรภ์
นอกจากนี้ คุณแม่ที่มีโรคประจำตัว เช่น ความดันโลหิตสูง หรือโรคเบาหวาน จะได้รับคำแนะนำการใช้ชีวิตประจำวันเพื่อที่จะสามารถควบคุมโรคได้โดยไม่ส่งผลกระทบต่อลูกน้อย
การฝากครรภ์ช่วยให้แพทย์สามารถประเมินและวางแผนการคลอดได้ล่วงหน้า โดยแพทย์จะให้คำแนะนำที่เหมาะสมกับสภาพร่างกายของคุณแม่และเด็กในครรภ์ รวมไปถึงให้คำแนะนำสัญญาณเตือนของเจ็บท้องใกล้คลอด เช่น ปวดทุก ๆ 10 นาที บ่อยครั้ง มีของเหลวไหลออกมาทางช่องคลอด ถุงน้ำคร่ำแตก
อ่านรายละเอียด ประโยชน์การฝากครรภ์กับโรงพยาบาล
ทางโรงพยาบาลมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยาที่มีประสบการณ์สูงที่ทำให้คุณแม่มั่นใจว่าจะได้รับคำแนะนำและการดูแลครรภ์ที่ดีที่สุด รวมไปถึงทีมแพทย์สามารถดำเนินการตรวจสอบและวินิจฉัยความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนระหว่างตั้งครรภ์ได้อย่างแม่นยำ พร้อมดูแลรักษาได้อย่างทันที นอกจากนี้สามารถให้คำปรึกษาเรื่องโภชนาการอาหาร การดูแลสุขภาพที่เหมาะสมระหว่างการตั้งครรภ์ได้
หนึ่งในข้อดีที่คุณแม้เข้ารับการฝากครรภ์กับโรงพยาบาลคือการเข้าถึงเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัย ซึ่งช่วยให้แพทย์สามารถตรวจสุขภาพของคุณแม่และทารกในครรภ์ได้อย่างละเอียดแม่นยำ
เครื่องอัลตราซาวด์ 4D เครื่องมือทางการแพทย์สำหรับการฝากครรภ์
ช่วยให้แพทย์สามารถรับรู้พัฒนาการต่าง ๆ การระบุเพศ ความผิดปกติ ความเสี่ยงของกลุ่มอาการดาวน์ซินโดรม ตำแหน่งรก ปริมาณน้ำคร่ำยังสามารถคัดกรองความเสี่ยงของการคลอดก่อนกำหนด ไม่เพียงเท่านี้เครื่องอัลตราซาวด์ 4Dจะช่วยให้คุณแม่ได้เห็นใบหน้าของทารกตอนอยู่ในครรภ์ได้
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ เครื่องอัลตราซาวด์ 4D สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์
แพทย์จะทำการให้คำแนะนำและประเมินจากปัจจัยความเสี่ยงต่าง ๆ ตั้งแต่อายุครรภ์ ภาวะแทรกซ้อน เพื่อเลือกวิธีการคลอดที่เหมาะสมและปลอดภัยที่สุดสำหรับทั้งแม่และทารก โดยทั่วไปแล้ว วิธีคลอดแบ่งออกเป็น 2 วิธีได้แก่ การคลอดธรรมชาติ (คลอดปกติ) และการผ่าคลอด
ทางโรงพยาบาเชียงใหม่รามมีบริการแพ็กเกจคลอดสามารถติดต่อขอรายละเอียดเพิ่มเติมที่แผนกสูติ-นรีเวช โรงพยาบาลเชียงใหม่ ราม โทร 052-004699 ต่อ 1500