โรงพยาบาลเชียงใหม่ ราม chiangmai ram hospital
ENG
ไทย
ENG
ไทย
Toggle navigation
หน้าแรก
(current)
ข่าวสาร
(current)
แพทย์
ค้นหาแพทย์
นัดแพทย์
บริการสำหรับผู้ป่วย
มีเดีย
วารสาร
รายการ TV
บทความสุขภาพ
INFOGRAPHIC
การรักษา
ศูนย์เฉพาะทาง
แผนก
เชียงใหม่ ราม เฮลท์ แอปพลิเคชัน
สิ่งอำนวยความสะดวก
ห้องพักผู้ป่วยใน
บริการอื่นๆ
แพ็กเกจ
แพ็คเกจและโปรโมชั่น
แพ็คเกจคลอด
บริการซื้อแพ็คเกจออนไลน์
เกี่ยวกับเรา
(current)
ติดต่อเรา
ติดต่อเรา
สมัครงาน
Customer Concerns
ค้นหาแพทย์
นัดแพทย์
มีเดีย
วารสาร
รายการ TV
บทความสุขภาพ
INFOGRAPHIC
การรักษา
ศูนย์เฉพาะทาง
แผนก
เชียงใหม่ ราม เฮลท์ แอปพลิเคชัน
สิ่งอำนวยความสะดวก
ห้องพักผู้ป่วยใน
บริการอื่นๆ
แพ็คเกจและโปรโมชั่น
แพ็คเกจคลอด
บริการซื้อแพ็คเกจออนไลน์
ติดต่อเรา
สมัครงาน
Customer Concerns
หน้าแรก
มีเดีย
บทความสุขภาพ
เคล็ดลับพัฒนาสมองน้องก่อนขวบแรก
เคล็ดลับพัฒนาสมองน้องก่อนขวบแรก
December 30 / 2022
สำหรับเจ้าตัวเล็กนั้น ขวบปีแรกนั้นถือได้ว่ามีความสำคัญที่สุด โดยเฉพาะในการพัฒนาทางด้านสมองให้มีความฉลาดเต็มประสิทธิภาพมากที่สุด เนื่องจากเมื่อแรกเกิดสมองของทารกจะมีน้ำหนักประมาณ 1 กิโลกรัม และมีเซลล์สมองประมาณ 100ล้านเซลล์ โดยจะไม่มีการเพิ่มจำนวนขึ้นอีก แต่จะมีการแตกแขนงระบบประสาทเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงปีแรก เพื่อทำหน้าที่ในการควบคุมร่างกายในส่วนต่างๆ และจะเริ่มพัฒนาลดลงเมื่ออายุ 2 ขวบ ดังนั้นในช่วงขวบปีแรก จึงถือเป็นช่วงเวลาสำคัญที่จะพัฒนาการเรียนรู้ และ สมองของน้องตัวน้อยได้ดีที่สุด โดยมีเคล็ดลับง่ายๆมาฝากกันดังนี้นะคะ
1. การทานนมแม่ คืออาหารที่ดีที่สุดของลูกน้อย
จากการวิจัยพบว่านมแม่มีสารอาหารที่สามารถปรับการเจริญเติบโตของทารกได้ดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นสารอาหารที่พัฒนาด้านระบบประสาท และ ฮอร์โมน แบบที่ไม่มีอาหารชนิดใดมาแทนที่ได้เลย นอกจากนี้ การให้นมของแม่ยังเป็นการให้ความรู้สึกของสัมผัสในอ้อมกอด ความอบอุ่น การสบตา ซึ่งทั้งหมดนี้ถือได้ว่าเป็นสิ่งสำคัญต่อพัฒนาการด้านสมองและการเรียนรู้ของลูกเป็นอย่างมาก ดังนั้นคุณแม่ควรให้นมแก่เจ้าตัวเล็กตั้งแต่แรกเกิด-6 เดือน เป็นอย่างน้อย เพื่อประสิทธิภาพในการพัฒนาการ และ ความใกล้ชิดระหว่างกันนั่นเอง
2. เข้าใจในเสียงร้องของลูก
สำหรับทารกการสื่อสารที่สำคัญก็คือการร้องไห้แทนการสื่อสารด้วยคำพูด ดังนั้นการร้องไห้จึงถือเป็นการแสดงออกแทนคำพูดที่จำเป็น โดยเด็กแต่ละคนก็จะมีวิธีการสื่อสารที่แตกต่างออกไป ซึ่งคุณพ่อคุณแม่จำเป็นจะต้องเรียนรู้และตีความการร้องของลูก ว่าในขณะนั้นลูกน้อยต้องการอะไร เช่น หิว , ไม่สบายตัว , ป่วย , หรือแม้แต่การเรียกร้องความสนใจ ซึ่งเมื่อลูกร้องไห้แล้วเราสามารถตอบสนองความต้องการของลูกได้อย่างถูกต้อง ก็จะมีผลต่อการสร้างความมั่นคงทางอารมณ์ให้แก่ลูกได้ เป็นการสร้างความรู้สึกมั่นใจ และ ปลอดภัยให้แก่ลูกส่งผลต่อพัฒนาการของลูกที่ดีขึ้นนั่นเอง
3. การสัมผัสด้วยการกอด และ อุ้ม
ทารกแรกเกิดมักจะมีอาการผวาเกิดขึ้น เนื่องจากปฏิกิริยาโมโร (Moro Reflex) ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติที่มักจะสะดุ้งขึ้นมาเองและจะลดลงเมื่ออายุเกิน 3 เดือน โดยลูกจะสะดุ้งได้บ่อยครั้ง แม้แต่การวางลงก็จะผวาร้องไห้ได้เป็นเรื่องปกติ ทำให้ช่วงนี้คุณพ่อคุณแม่สามารถอุ้มน้องได้โดยไม่ต้องกลัวว่าจะมีอาการติดมือเลย และอาการดังกล่าวจะลดลงเมื่ออายุ 5-6 เดือน
4. การสร้างวินัยแต่เนิ่นๆ
แม้ว่าในขวบปีแรกทารกอาจยังไม่สามารถสื่อสารด้วยคำพูดได้ แต่เราก็ควรฝึกวินัยให้แก่ลูกเราได้ตั้งแต่เด็ก โดยช่วงเดือนแรกลูกอาจยังกินและนอนไม่เป็นเวลาต้องกินนมทุก 3 ชั่วโมง แต่เมื่อเวลาผ่านไปก็จะนอนได้นานขึ้นและกินนมเป็นเวลาที่ชัดเจนขึ้นด้วย ดังนั้นเมื่อลูกอายุได้ 4-5 เดือน ก็ควรให้นมลูกเป็นเวลา ไม่ควรให้นมตอนกลางคืนหรือให้นมพร่ำเพรื่อเพราะอาจทำให้ลูกกลายเป็นเด็กติดเต้าและไม่สนใจทำกิจกรรมอื่น ๆ ส่งผลต่อพัฒนาการของลูกน้อยได้นั่นเอง
5. การเล่นกับลูก
การเล่นกับลูกจะช่วยให้พัฒนาการของลูกสามารถพัฒนาได้มากขึ้นหากคุณพ่อคุณแม่หากิจกรรมการเล่นที่ช่วยสร้างเสริมพัฒนาการที่เหมาะสมให้แก่ลูกได้ ก็จะช่วยให้ลูกสามารถพัฒนาระบบประสาท การเรียนรู้ รวมไปถึงกิจกรรมที่สร้างความแข็งแรงให้กับร่างกายของลูกในแต่ละส่วนได้เป็นอย่างดีด้วย
6. การอ่านหนังสือ
การอ่านหนังสือให้ลูกฟัง ถือได้ว่ามีความสำคัญเทียบเท่ากับการพูดกับลูกเลยทีเดียว เนื่องจากการอ่านจะมีโครงสร้างของรูปประโยคที่เราสื่อสาร ทำให้ลูกได้สังเกตและพัฒนาด้านภาษาและการสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยสามารถอ่านหนังสือให้ลูกฟังได้ตั้งแต่ลูกยังอยู่ในครรภ์ 4-5 เดือนต่อเนื่องไปได้เรื่อยๆเลย
7. งดใช้หน้าจอ
แม้ว่าในปัจจุบันจะมีการพัฒนาโปรแกรมต่างๆในการสร้างเสริมพัฒนาการของเด็กผ่านทางอุปกรณ์สื่อสารออกมาเป็นจำนวนมาก แต่จากงานวิจัยหลายชิ้นก็ให้ผลออกมาว่า การที่เด็กมีการใช้หน้าจอต่างๆมากเกินไป จะทำให้ส่งผลกระทบต่ออารมณ์ของเด็ก ทำให้เด็กฉุนเฉียวง่าย ขาดความอดทน สมาธิสั้น ดังนั้นเราจึงไม่ควรให้เด็กอยู่หน้าจออุปกรณ์ต่างๆมากเกินไป โดยเรื่องนี้คุณพ่อคุณแม่ต้องมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตนเองให้เหมาะสมด้วย
8. ออกกำลังกาย
การออกกำลังกายถือได้ว่ามีความจำเป็นต่อทารกในระยะขวบปีแรกเป็นอย่างมาก เพราะเป็นช่วงที่ลูกจะมีการพัฒนาการด้านการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว หากมีการออกกำลังกายอย่างเหมาะสมก็จะช่วยให้สามารถสร้างเสริมด้านการฝึกใช้กล้ามเนื้อ และ ประสาทต่างๆได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นการทรงตัว การนั่ง การยืน การสร้างความสัมพันธ์ระหว่างกล้ามเนื้อ ตา มือ เท้า และยังเป็นการทำให้เด็กมีอารมณ์แจ่มใสอีกด้วย
จะเห็นได้ว่าในช่วงขวบปีแรกมีความสำคัญต่อพัฒนาการในด้านต่างๆของทารกเป็นอย่างมาก ดังนั้นหากคุณพ่อคุณแม่ต้องการคำปรึกษา โรงพยาบาลเชียงใหม่ ราม มีแพทย์เฉพาะทางสำหรับเด็กคอยให้คำปรึกษา
สามารถติดต่อได้ที่ แผนกผู้ป่วยนอกเด็ก โทร. 052 004699 ต่อ 5148,5149