
อาการวิงเวียน หน้ามืด ตาพร่า หายใจไม่ทัน หรือถึงขั้นยืนขึ้นแล้วเกือบล้ม อาการเหล่านี้หลายคนคิดว่า “เดี๋ยวก็หาย” แต่ความจริงแล้ว อาจเป็นสัญญาณของภาวะความดันโลหิตต่ำ ที่อาจร้ายแรงกว่าที่คิด โดยเฉพาะเมื่อความดันลดลงอย่างเฉียบพลันจนเลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอ
บทความนี้จะทำความเข้าใจตั้งแต่สาเหตุ อาการ ระดับความดันโลหิตที่ถือว่า อันตรายจริง ไปจนถึงวิธีดูแลตัวเองเพื่อป้องกันภาวะนี้ได้ทันทีที่เริ่มเกิดขึ้น
ภาวะความดันโลหิตต่ำ (Hypotension) คือ ค่าความดันโลหิตต่ำกว่าปกติจนเลือดไหลเวียนไปเลี้ยงสมอง หัวใจ และอวัยวะต่าง ๆ ไม่เพียงพอ ทำให้เกิดอาการวิงเวียน หน้ามืด เป็นลม หรืออ่อนเพลียเรื้อรังได้
โดยระดับความดันโลหิตปกติของผู้ใหญ่ ควรอยู่ที่
ค่าบน (Systolic) 120-129 mmHg
ค่าล่าง (Diastolic) 80-84 mmHg
เมื่อความดันต่ำกว่าช่วงนี้ โดยเฉพาะต่ำกว่าเกณฑ์ 90/60 mmHg ถือว่าเป็นภาวะความดันโลหิตต่ำ
ภาวะความดันต่ำเกิดได้จากหลายปัจจัย ตั้งแต่ ขาดน้ำ ไปจนถึงโรคร้ายแรงที่ต้องได้รับการรักษา
ดื่มน้ำไม่พอ ทำให้ปริมาณเลือดลดลง ส่งผลให้หัวใจสูบฉีดเลือดไม่เต็มที่ เกิดอาการวิงเวียน อ่อนแรง และความดันตก
ระบบไหลเวียนโลหิตขยายตัวในระหว่างตั้งครรภ์ ทำให้ค่าความดันโลหิตต่ำลง โดยเฉพาะในไตรมาสที่ 1-2
ลิ้นหัวใจผิดปกติ
หัวใจเต้นผิดจังหวะ
ภาวะหัวใจล้มเหลว
ภาวะต่อมหมวกไตทำงานไม่เพียงพอ
ภาวะพาราไทรอยด์ผิดปกติ
น้ำตาลต่ำจากโรคเบาหวาน
ปริมาณเลือดในระบบลดลงอย่างรวดเร็ว ทำให้ความดันร่วงอย่างเฉียบพลัน เสี่ยงช็อกสูงมาก
เป็นภาวะอันตรายที่ทำให้ความดันต่ำลงมากจนเลือดไปเลี้ยงอวัยวะไม่เพียงพอ
เช่น วิตามิน B-12, ธาตุเหล็ก, โฟเลต ทำให้ร่างกายสร้างเม็ดเลือดแดงได้น้อย ส่งผลให้เกิดภาวะโลหิตจางและความดันต่ำตามมา
ยาขับปัสสาวะ
ยารักษาโรคพาร์กินสัน
ยาต้านซึมเศร้าบางชนิด
ยาลดความดัน (รับมากเกินอาจทำให้ความดันตก)
อาการอาจแตกต่างกันไปในแต่ละคน แต่สัญญาณที่พบได้บ่อย ได้แก่
ผู้ใหญ่ น้อยกว่า 90/60 mmHg
ผู้สูงอาย ต่ำกว่า 100/70 mmHg (ถือว่าเสี่ยงมากกว่า)
เช่นจาก 120/80 ลดลง 90/60 ภายในไม่กี่นาที แม้ตัวเลขสุดท้ายยังดูไม่ต่ำมาก แต่การลดลงรวดเร็วแบบนี้ อันตรายมาก
บ่งบอก ภาวะความดันต่ำเมื่อเปลี่ยนท่า (Orthostatic Hypotension) เสี่ยงล้ม กระดูกหัก หรือเกิดอุบัติเหตุได้
สับสน มึนงง โดยเฉพาะผู้สูงอายุ
ตัวซีด มือเท้าเย็น
หายใจเร็วตื้น
ชีพจรเต้นอ่อนหรือเต้นเร็วผิดปกติ
เป็นลม
อาเจียนรุนแรง
มีภาวะช็อก
การรักษาภาวะความดันโลหิตต่ำจะแตกต่างกันตามสาเหตุ แต่โดยหลักแล้วประกอบด้วยทั้ง การดูแลตนเอง” และ “รักษาตามแพทย์สั่ง
ดื่มน้ำให้เพียงพอ น้ำจะช่วยเพิ่มปริมาณเลือดในร่างกาย ทำให้ความดันดีขึ้นเหมาะมากสำหรับผู้ที่ขาดน้ำหรือเหงื่อออกมาก
เพิ่มสารอาหารที่ช่วยสร้างเม็ดเลือดแดง เช่น วิตามิน B12 โฟเลต ธาตุเหล็ก ช่วยป้องกันภาวะโลหิตจางที่ทำให้ความดันต่ำ
ทานอาหารมื้อเล็ก ๆ แต่บ่อยขึ้น ช่วยให้เลือดไม่ถูกดึงไปที่กระเพาะอาหารมากเกินไปหลังอาหาร
หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์ เพราะทำให้ความดันลดลงและร่างกายขาดน้ำง่าย
ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือดและเสริมสมรรถภาพหัวใจ
ไม่ใช้หมอนเตี้ยเกินไป หมอนเตี้ยจะทำให้การไหลเวียนเลือดผิดปกติในบางคน
หลีกเลี่ยงการยืนนานหรือเปลี่ยนท่าเร็วเกินไป โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่มีความเสี่ยงสูงต่อ orthostatic hypotension
ภาวะความดันโลหิตต่ำไม่ใช่เรื่องเล็กอย่างที่หลายคนคิด แม้บางคนอาจมีค่าความดันต่ำเป็นปกติ แต่หากอยู่ดี ๆ มีอาการวิงเวียน หน้ามืด ตาพร่า ชีพจรเต้นเร็ว หรือความดันตกเฉียบพลัน ต้องรีบตรวจและหาสาเหตุทันที เพราะอาจบ่งชี้ภาวะร้ายแรงที่ต้องได้รับการรักษาโดยเร็ว
หากคุณมีอาการเข้าข่ายหรือไม่แน่ใจว่าตัวเองเป็นความดันต่ำแบบไหน ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพเพื่อตรวจวินิจฉัยอย่างถูกต้อง การรู้เร็ว รักษาเร็ว คือวิธีป้องกันความรุนแรงได้ดีที่สุด