ความดันโลหิตต่ำเท่าไหร่ถึงอันตราย และวิธีสังเกตอาการและการรักษา
December 16 / 2025

ความดันต่ำ เท่าไหร่ อันตราย

 

อาการวิงเวียน หน้ามืด ตาพร่า หายใจไม่ทัน หรือถึงขั้นยืนขึ้นแล้วเกือบล้ม อาการเหล่านี้หลายคนคิดว่า “เดี๋ยวก็หาย” แต่ความจริงแล้ว อาจเป็นสัญญาณของภาวะความดันโลหิตต่ำ ที่อาจร้ายแรงกว่าที่คิด โดยเฉพาะเมื่อความดันลดลงอย่างเฉียบพลันจนเลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอ

บทความนี้จะทำความเข้าใจตั้งแต่สาเหตุ อาการ ระดับความดันโลหิตที่ถือว่า อันตรายจริง ไปจนถึงวิธีดูแลตัวเองเพื่อป้องกันภาวะนี้ได้ทันทีที่เริ่มเกิดขึ้น

รู้จักภาวะความดันโลหิตต่ำ คืออะไร

ภาวะความดันโลหิตต่ำ (Hypotension) คือ ค่าความดันโลหิตต่ำกว่าปกติจนเลือดไหลเวียนไปเลี้ยงสมอง หัวใจ และอวัยวะต่าง ๆ ไม่เพียงพอ ทำให้เกิดอาการวิงเวียน หน้ามืด เป็นลม หรืออ่อนเพลียเรื้อรังได้

โดยระดับความดันโลหิตปกติของผู้ใหญ่ ควรอยู่ที่

  • ค่าบน (Systolic) 120-129 mmHg
     

  • ค่าล่าง (Diastolic) 80-84 mmHg
     

เมื่อความดันต่ำกว่าช่วงนี้ โดยเฉพาะต่ำกว่าเกณฑ์ 90/60 mmHg  ถือว่าเป็นภาวะความดันโลหิตต่ำ

สาเหตุของความดันโลหิตต่ำ

ภาวะความดันต่ำเกิดได้จากหลายปัจจัย ตั้งแต่ ขาดน้ำ ไปจนถึงโรคร้ายแรงที่ต้องได้รับการรักษา

1. ภาวะขาดน้ำ (Dehydration)

ดื่มน้ำไม่พอ ทำให้ปริมาณเลือดลดลง ส่งผลให้หัวใจสูบฉีดเลือดไม่เต็มที่ เกิดอาการวิงเวียน อ่อนแรง และความดันตก

2. ตั้งครรภ์

ระบบไหลเวียนโลหิตขยายตัวในระหว่างตั้งครรภ์ ทำให้ค่าความดันโลหิตต่ำลง โดยเฉพาะในไตรมาสที่ 1-2

3. โรคที่เกี่ยวกับหัวใจ

  • ลิ้นหัวใจผิดปกติ
     

  • หัวใจเต้นผิดจังหวะ
     

  • ภาวะหัวใจล้มเหลว

4. ปัญหาเกี่ยวกับต่อมไร้ท่อ

  • ภาวะต่อมหมวกไตทำงานไม่เพียงพอ
     

  • ภาวะพาราไทรอยด์ผิดปกติ
     

  • น้ำตาลต่ำจากโรคเบาหวาน

5. เสียเลือดมากหรือเลือดออกภายใน

ปริมาณเลือดในระบบลดลงอย่างรวดเร็ว ทำให้ความดันร่วงอย่างเฉียบพลัน เสี่ยงช็อกสูงมาก

6. การติดเชื้อรุนแรง (Septic Shock)

เป็นภาวะอันตรายที่ทำให้ความดันต่ำลงมากจนเลือดไปเลี้ยงอวัยวะไม่เพียงพอ

7. การขาดสารอาหาร

เช่น วิตามิน B-12, ธาตุเหล็ก, โฟเลต ทำให้ร่างกายสร้างเม็ดเลือดแดงได้น้อย ส่งผลให้เกิดภาวะโลหิตจางและความดันต่ำตามมา

8. ยาหลายชนิดมีผลต่อความดัน

  • ยาขับปัสสาวะ
     

  • ยารักษาโรคพาร์กินสัน
     

  • ยาต้านซึมเศร้าบางชนิด
     

  • ยาลดความดัน (รับมากเกินอาจทำให้ความดันตก)

อาการของความดันโลหิตต่ำ

อาการอาจแตกต่างกันไปในแต่ละคน แต่สัญญาณที่พบได้บ่อย ได้แก่

  1. วิงเวียนศีรษะ หน้ามืด หรือเป็นลม

  2. ตาพร่ามัว / เห็นภาพซ้อน

  3. อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย ไม่มีแรง

  4. คลื่นไส้

  5. ขาดสมาธิ คิดช้าลง

  6. ชีพจรเต้นเร็ว หายใจเร็ว ตัวเย็นซีด

ความดันโลหิตต่ำเท่าไหร่ถึงอันตราย

ค่าความดันโลหิตที่ถือว่า “ต่ำ”

  • ผู้ใหญ่ น้อยกว่า 90/60 mmHg
     

  • ผู้สูงอาย ต่ำกว่า 100/70 mmHg (ถือว่าเสี่ยงมากกว่า)
     

ค่าความดันที่ “อันตรายจริง” และควรพบแพทย์ทันที

ความดันลดลงอย่างเฉียบพลัน

เช่นจาก 120/80 ลดลง 90/60 ภายในไม่กี่นาที แม้ตัวเลขสุดท้ายยังดูไม่ต่ำมาก แต่การลดลงรวดเร็วแบบนี้ อันตรายมาก

ความดันในท่ายืนต่ำกว่าท่านอน ≥ 20 mmHg

บ่งบอก ภาวะความดันต่ำเมื่อเปลี่ยนท่า (Orthostatic Hypotension) เสี่ยงล้ม กระดูกหัก หรือเกิดอุบัติเหตุได้

มีอาการรุนแรงร่วมด้วย เช่น

  • สับสน มึนงง โดยเฉพาะผู้สูงอายุ
     

  • ตัวซีด มือเท้าเย็น
     

  • หายใจเร็วตื้น
     

  • ชีพจรเต้นอ่อนหรือเต้นเร็วผิดปกติ
     

  • เป็นลม
     

  • อาเจียนรุนแรง
     

  • มีภาวะช็อก
     

 

วิธีรักษาภาวะความดันโลหิตต่ำ

การรักษาภาวะความดันโลหิตต่ำจะแตกต่างกันตามสาเหตุ แต่โดยหลักแล้วประกอบด้วยทั้ง การดูแลตนเอง” และ “รักษาตามแพทย์สั่ง

วิธีดูแลตัวเองเมื่อมีภาวะความดันต่ำ

  1. ดื่มน้ำให้เพียงพอ น้ำจะช่วยเพิ่มปริมาณเลือดในร่างกาย ทำให้ความดันดีขึ้นเหมาะมากสำหรับผู้ที่ขาดน้ำหรือเหงื่อออกมาก

  2. เพิ่มสารอาหารที่ช่วยสร้างเม็ดเลือดแดง เช่น วิตามิน B12 โฟเลต ธาตุเหล็ก ช่วยป้องกันภาวะโลหิตจางที่ทำให้ความดันต่ำ

  3. ทานอาหารมื้อเล็ก ๆ แต่บ่อยขึ้น ช่วยให้เลือดไม่ถูกดึงไปที่กระเพาะอาหารมากเกินไปหลังอาหาร

  4. หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์ เพราะทำให้ความดันลดลงและร่างกายขาดน้ำง่าย

  5. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือดและเสริมสมรรถภาพหัวใจ

  6. ไม่ใช้หมอนเตี้ยเกินไป หมอนเตี้ยจะทำให้การไหลเวียนเลือดผิดปกติในบางคน

  7. หลีกเลี่ยงการยืนนานหรือเปลี่ยนท่าเร็วเกินไป โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่มีความเสี่ยงสูงต่อ orthostatic hypotension

ภาวะความดันโลหิตต่ำไม่ใช่เรื่องเล็กอย่างที่หลายคนคิด แม้บางคนอาจมีค่าความดันต่ำเป็นปกติ แต่หากอยู่ดี ๆ มีอาการวิงเวียน หน้ามืด ตาพร่า ชีพจรเต้นเร็ว หรือความดันตกเฉียบพลัน ต้องรีบตรวจและหาสาเหตุทันที เพราะอาจบ่งชี้ภาวะร้ายแรงที่ต้องได้รับการรักษาโดยเร็ว

หากคุณมีอาการเข้าข่ายหรือไม่แน่ใจว่าตัวเองเป็นความดันต่ำแบบไหน ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพเพื่อตรวจวินิจฉัยอย่างถูกต้อง  การรู้เร็ว รักษาเร็ว คือวิธีป้องกันความรุนแรงได้ดีที่สุด