เช็กอาการกรดไหลย้อน และการรักษา
December 16 / 2025

กรดไหลย้อน

 

คุณเคยรู้สึกแสบร้อนกลางอกหรือเรอบ่อย ๆ หลังทานอาหารหรือไม่ อาการเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณของ กรดไหลย้อน ซึ่งหลายคนมองข้ามเพราะคิดว่าเป็นเรื่องปกติของกระเพาะอาหาร แต่หากปล่อยทิ้งไว้ อาจทำให้เกิดอาการรุนแรง ส่งผลต่อการนอนหลับ การทำงาน และคุณภาพชีวิต

บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจ อาการกรดไหลย้อน สาเหตุ วิธีรักษา และวิธีป้องกัน เพื่อให้คุณสามารถจัดการอาการได้อย่างมีประสิทธิภาพและกลับมามีชีวิตประจำวันที่สบายขึ้น

รู้จักกับโรคกรดไหลย้อน

กรดไหลย้อน หรือ Gastroesophageal Reflux Disease (GERD) คือภาวะที่กรดในกระเพาะอาหารไหลย้อนขึ้นมาที่หลอดอาหาร ทำให้เกิดความระคายเคืองและแสบร้อนบริเวณหน้าอกและลำคอ โดยทั่วไปหลอดอาหารจะมีกล้ามเนื้อหูรูด (Lower Esophageal Sphincter - LES) ทำหน้าที่ป้องกันไม่ให้กรดไหลย้อนขึ้นมา แต่ถ้ากล้ามเนื้อนี้อ่อนแรงหรือทำงานผิดปกติ กรดจะไหลย้อนและทำให้เกิดอาการต่าง ๆ

การเข้าใจโรคตั้งแต่ต้นช่วยให้คุณสามารถสังเกตอาการและหาวิธีจัดการได้อย่างเหมาะสม ลดความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น แผลหลอดอาหาร หรือการอักเสบเรื้อรัง

สาเหตุการเกิดกรดไหลย้อน

การเกิด กรดไหลย้อน มักมีหลายปัจจัยร่วมกัน ทั้งด้านร่างกายและพฤติกรรมชีวิตประจำวัน

ปัจจัยทางร่างกาย

  • กล้ามเนื้อหูรูดหลอดอาหารผิดปกติ กล้ามเนื้ออ่อนแรงทำให้กรดไหลย้อนขึ้นง่าย
     

  • โรคอ้วน น้ำหนักตัวเกินไปทำให้ความดันในช่องท้องสูง ส่งผลให้กรดไหลย้อนบ่อย
     

  • การตั้งครรภ์ ฮอร์โมนและแรงกดท้องสามารถทำให้กล้ามเนื้อหูรูดหลวม
     

ปัจจัยจากพฤติกรรม

  • อาหารที่กระตุ้นกรด อาหารเผ็ด มัน ของทอด ช็อกโกแลต
     

  • เครื่องดื่ม กาแฟ แอลกอฮอล์ น้ำอัดลม
     

  • นิสัยการกิน กินเสร็จแล้วเอนตัวนอนลงทันที

อาการกรดไหลย้อน

กรดไหลย้อน อาการ สามารถแบ่งเป็นอาการทั่วไปและอาการเฉพาะ

อาการทั่วไป

  • แสบร้อนกลางอกหรือหน้าอกล่าง
     

  • เรอบ่อยหลังอาหาร
     

  • คลื่นไส้หรือมีรสเปรี้ยวในปาก
     

  • เจ็บคอเรื้อรังหรือไอไม่หาย
     

  • เสียงแหบหรือกลืนลำบาก

การรักษาโรคกรดไหลย้อน

การรักษา กรดไหลย้อน สามารถทำได้ทั้งทางยาและการปรับพฤติกรรม ซึ่งการปรับวิถีชีวิตมักเป็นขั้นตอนแรกที่แนะนำ

ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต

  • แบ่งกินเป็นมื้อเล็ก ๆ แต่บ่อย
     

  • หลีกเลี่ยงอาหารและเครื่องดื่มกระตุ้นอาการ เช่น ของเผ็ด, มัน, ช็อกโกแลต, กาแฟ, แอลกอฮอล์

     

  • ออกกำลังกายและลดน้ำหนัก
     

  • จัดการความเครียด
     

กรณีที่มีอาการรุนแรงจำเป็นต้องพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัย และรักษาตามคำแนะนำของแพทย์

การป้องกันกรดไหลย้อน

แม้ว่าจะรักษาอาการแล้ว การป้องกันไม่ให้เกิดซ้ำก็สำคัญไม่แพ้กัน

  • กินอาหารให้เหมาะสม เลี่ยงกินอาหารในปริมาณมาก และกินก่อนนอน
     

  • หลีกเลี่ยงอาหาร เครื่องดื่มกระตุ้นกรด เช่น เผ็ด มัน กาแฟ แอลกอฮอล์
     

  • ปรับพฤติกรรมชีวิตประจำวัน ลดน้ำหนัก, ออกกำลังกาย, ผ่อนคลายความเครียด
     

  • ตรวจสุขภาพประจำปี เพื่อสังเกตอาการและป้องกันภาวะแทรกซ้อน
     

กรดไหลย้อน เป็นโรคที่พบได้บ่อย แต่สามารถจัดการได้ หากรู้จักอาการ สาเหตุ การรักษา และการป้องกันอย่างถูกวิธี

การปรับพฤติกรรม การเลือกอาหารที่เหมาะสม และการใช้ยาตามคำแนะนำแพทย์ จะช่วยให้คุณลดอาการและกลับมามีชีวิตประจำวันที่สบายได้