สำหรับพ่อแม่และผู้ปกครอง การเฝ้าดูพัฒนาการของลูกเป็นเรื่องที่สำคัญมาก โดยเฉพาะ "ส่วนสูง" ซึ่งไม่เพียงแต่เกี่ยวข้องกับลักษณะทางกายภาพเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงสุขภาพและการเจริญเติบโตที่สมบูรณ์
แม้ว่าพันธุกรรมจะมีบทบาทสำคัญ แต่การเลี้ยงดูและสภาพแวดล้อมก็เป็นตัวแปรสำคัญที่ส่งผลต่อพัฒนาการของเด็ก เช่น การรับประอาหารที่เหมาะสม การนอนหลับที่เพียงพอ การออกกำลังกาย
บทความนี้จะนำเสนอเคล็ดลับที่นำไปใช้ได้จริง เพื่อช่วยให้เด็กๆ เติบโตได้อย่างเต็มศักยภาพ พร้อมสุขภาพที่แข็งแรงและมีคุณภาพชีวิตที่ดีในอนาคต
กรรมพันธุ์เป็นปัจจัยสำคัญและถือได้ว่าเป็นตัวกำหนดส่วนสูงของเด็ก หากพ่อแม่ทั้งคู่ตัวสูง เด็กก็มีโอกาสสูงตามพ่อแม่ได้มากเช่นกัน ทางตรงกันข้าม ถ้าพ่อแม่ไม่ได้ตัวสูงเด็กก็มีโอกาสที่จะไม่สูงเหมือนกัน อย่างไรก็ตาม กรรมพันธุ์ไม่ใช่ตัวกำหนดส่วนสูงไปทั้งหมด เพราะยังมีปัจจัยอื่นที่สามารถช่วยส่งเสริมให้เด็กเจริญเติบโตได้ดีขึ้น
โภชนาการเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่สุดที่ส่งผลโดยตรงต่อการเจริญเติบโตของส่วนสูง เด็กที่ได้รับสารอาหารครบถ้วนและเพียงพอจะมีโอกาสเติบโตได้อย่างสมวัยและมีสุขภาพที่ดี
แคลเซียมเป็นสารอาหารสำคัญที่ส่งเสริมการขยายและการเจริญเติบโตของกระดูกสำหรับเด็กที่อยู่ในวัยกำลังเจริญเติบโต แนะนำปริมาณแคลเซียมต่อวันสำหรับเด็กแต่ละวัย
แหล่งอาหารที่อุดมไปด้วยแคลเซียมสูง
โปรตีนเป็นสารอาหารสำคัญที่ช่วยในการเจริญเติบโตของกระดูก เนื่องจากโปรตีนมีกรดอะมิโนสำคัญที่ช่วยบำรุงการผลิตโกรทฮอร์โมนสำหรับการเจริญเติบโตในการเพิ่มส่วนสูงและพัฒนาการของเด็ก ช่วงวัยเด็กโปรตีนที่รับประทานเข้าไปแต่ละวันจะถูกนำมาใช้ในการยืดตัวเพิ่มส่วนสูง และ เพิ่มขนาดร่างกาย
แนะนำแหล่งโปรตีน
วิตามินดีจะคอยทำหน้าที่ในการดูดซึมแคลเซียมและฟอสเฟต เพื่อรักษาสมดุลระดับแคลเซียมและฟอสเฟตในร่างกายเพื่อใช้ในการสร้างมวลกระดูก และทำให้เกิดการยืดตัวของกระดูกที่เป็นกระบวนการสำคัญที่ทำให้เด็กมีร่างกายสูงขึ้น
เป็นแร่ธาตุที่สำคัญสำหรับกระบวนการสร้างมวลกระดูก โดยหน้าที่ของสังกะสีจะทำการช่วยสังเคราะห์โปรตีน เพื่อกระตุ้นการแบ่งเซลล์และสร้างเซลล์ใหม่ หากร่างกายได้รับปริมาณสังกะสีไม่เพียงพอจะเกิดการชะลอการสร้างเซลล์ใหม่และการเจริญเติบโตของกระดูก
ปริมาณสังกะสีที่แนะนำต่อวันในคนอายุแต่ละช่วงวัย
การออกกำลังกายเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความสูงของเด็ก สำหรับการออกกำลังกายที่จะช่วยพัฒนาการด้านความสูงได้แก่ การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ เช่น การวิ่ง กระโดดเชือก เล่นบาส หรือกีฬาที่เป็นการส่งผลให้เกิดแรงกระแทกกระดูกและกล้ามเนื้อไม่ว่าจะเป็น การวิ่ง บาสเก็ตบอล หรือว่ายน้ำ ซึ่งกีฬาเหล่านี้จะช่วยกระตุ้นการยืดกล้ามเนื้อและกระดูดให้สูงขึ้นได้
อายุ |
ส่วนสูงเฉลี่ยสำหรับเพศชาย (ซม.) |
ส่วนสูงเฉลี่ยสำหรับเพศหญิง (ซม.) |
แรกเกิด |
48-53 |
48-52 |
1 ปี |
71-81 |
70-79 |
2 ปี |
82-92 |
81-91 |
3 ปี |
89-101 |
88-99 |
4 ปี |
95-110 |
94-108 |
5 ปี |
100-117 |
99-116 |
6 ปี |
105-122 |
104-121 |
7 ปี |
110-127 |
109-126 |
8 ปี |
115-132 |
114-131 |
9 ปี |
120-137 |
119-136 |
10 ปี |
125-143 |
124-142 |
11 ปี |
130-150 |
130-149 |
12 ปี |
135-157 |
135-156 |
13 ปี |
142-164 |
141-161 |
14 ปี |
148-170 |
147-164 |
15 ปี |
155-174 |
150-166 |
16 ปี |
160-178 |
151-167 |
17 ปี |
163-180 |
151-168 |
18 ปี |
164-182 |
151-169 |
การพัฒนาส่วนสูงของเด็กเป็นเรื่องสำคัญที่พ่อแม่ผู้ปกครองไม่ควรมองข้าม ควรสังเกตพัฒนาการส่วนของแต่ละช่วงวัยอย่างใกล้ชิดหากพบว่าส่วนสูงของเด็กน้อยต่ำกว่าเกณฑ์มาตราฐานควรทำการปรึกษาหมอเด็กเพื่อปรึกษารับคำแนะนำในการเพิ่มพัฒนาการส่วนสูงให้เหมาะสมแต่ละวัย
ติดต่อศูนย์เฉพาะทางเด็กโรงพยาบาลเชียงใหม่ ราม