“ท้องผูก...ภัยใกล้ตัวของผู้สูงวัย”
November 15 / 2023

 

       ปัญหาท้องผูกของผู้สูงอายุอาจไม่เพียงแค่ทำให้คุณรู้สึกไม่สบายเท่านั้น แต่มันยังเป็นสัญญาณที่แสดงให้เห็นถึงความเสี่ยงของสุขภาพอย่างมาก เนื่องจากผู้สูงอายุจะมีระบบการเผาผลาญที่ช้าลง ระบบการย่อยอาหารจะมีปัญหาทำให้เกิดอาการท้องผูก ขับถ่ายยาก ก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพด้านอื่นๆตามมาได้  ดังนั้นเราจึงควรทราบการป้องกันและระมัดระวังไม่ให้เกิดอาการท้องผูกในผู้สูงอายุไว้ให้ดีที่สุด

 

 

ท้องผูกเกิดได้อย่างไร :

อาการท้องผูก เกิดขึ้นเมื่อระบบย่อยอาหารของร่างกายไม่ทำงานอย่างปกติ ทำให้การบีบตัวของลำไส้ลดลง และอาหารไม่ถูกขับออกจากลำไส้ตลอดเวลาที่ควร ที่ส่งผลให้คุณรู้สึกอิ่ม ทานอาหารน้อยลง มีอาการท้องอืด ถ้าคนที่มากอายุประสบปัญหาท้องผูกอย่างต่อเนื่อง อาจมีความเสี่ยงในการเป็นโรคทางเดินอาหาร เช่น ริดสีดวง โรคเกี่ยวกับกระเพาะอาหาร หรือมะเร็งทางเดินอาหารได้

 

 

สาเหตุของอาการท้องผูกในผู้สูงอายุ :

1. การเปลี่ยนแปลงฮอร์โมน  การเปลี่ยนแปลงของระบบฮอร์โมนในร่างกายจากอายุที่มากขึ้น เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ผู้สูงอายุมีแนวโน้มต่อท้องผูก เช่น การลดการผลิตฮอร์โมนที่ช่วยควบคุมการเคลื่อนไหวของลำไส้ ทำให้เกิดอาการท้องอืด และ ท้องผูกตามมา

2. ระบบย่อยอาหารช้าลง  เมื่ออายุมากขึ้น สารเคมีที่ช่วยในกระบวนการย่อยอาหารในลำไส้อาจลดลงในผู้สูงอายุ ทำให้อาหารไม่ย่อยอาหารเข้าสู่เลือดอย่างมีประสิทธิภาพ นำมาซึ่งอาการท้องผูกได้

3. การเดินทางหรือการเคลื่อนไหวที่ไม่สะดวก  เมื่อแก่ตัวลง การเดินทางหรือการเคลื่อนไหวของร่างกายอาจไม่สามารถทำได้เหมือนเดิม อาจเกิดจากโรคเรื้อรัง หรือความจำเป็นที่ต้องเดินด้วยรถเข็นทำให้การเคลื่อนที่ลดลง ซึ่งจากพฤติกรรมดังกล่าว มีส่วนที่จะส่งผลให้ระบบย่อยอาหารช้าลงได้ หรืออาจมีการกลั้นการอุจจาระทำให้เป็นสาเหตุของอาการท้องผูกได้

4. การรับประทานยา  ยาบางตัวอาจมีผลต่ออาการท้องผูกได้ เช่น ยาต้านเกร็งลำไส้ หรือยาต้านเเพลงทางเดินอาหาร ดังนั้นหากจะมีการใช้ยา จะต้องได้รับคำปรึกษาจากแพทย์ก่อนทุกครั้ง

5. การดื่มน้ำน้อย  น้ำถือได้ว่ามีความสำคัญอย่างมากโดยเฉพาะกับผู้สูงอายุ การดื่มน้ำไม่เพียงพออาจทำให้มีผลต่อความสมดุลของร่างกายได้ รวมไปถึงทำให้เกิดอาหารขาดน้ำ และเป็นสาเหตุทำให้ท้องผูกได้

6. การรับประทานอาหารที่ขาดใยอาหาร  อาหารที่มีสารใยอาหารมากจะช่วยกระตุ้นการย่อยอาหารและการเคลื่อนเกร็งของลำไส้ ดังนั้นหากผู้สูงอายุที่บริโภคอาหารที่ขาดใยอาหาร ย่อมมีโอกาสท้องผูกมากขึ้นนั่นเอง

7. ติดเชื้อแบคทีเรียเฮลิโคแบคเตอร์ ไพโลไร (Helicobacter pylori)  เป็นเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดการอักเสบในกระเพาะอาหาร เป็นต้นเหตุของอาการปวดท้อง ท้องอืด อาหารไม่ย่อย ท้องผูก และอาจทำให้เป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองของกระเพาะอาหารได้ในอนาคต จึงควรต้องมีการตรวจหาเชื้อแบคทีเรียดังกล่าวด้วย เมื่อพบอาการท้องผูกเกิดขึ้น

 

 

 

การตรวจหาและวินิจฉัยอาการท้องผูก :

 1.การตรวจร่างกายอย่างละเอียด และซักถามพฤติกรรม  โดยเป็นการวินิจฉัยเบื้องต้น ซึ่งแพทย์จะ ซักถามประวัติเกี่ยวกับลักษณะการถ่ายอุจจาระ และสาเหตุที่เกี่ยวข้องก่อนทำการตรวจร่างกายอย่างละเอียด หากแพทย์มีข้อสงสัยอาจมีการเจาะเลือดตรวจเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำงานของไทรอยด์ ระดับแคลเซียมของเลือด รวมไปถึงค่าอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

 

2.การส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่  จะช่วยวินิจฉัยอาการท้องผูกที่อาจเกิดจากมะเร็งลำไส้ โดยเฉพาะผู้ป่วยที่มีอาการน้ำหนักลด ผิดซีด ครอบครัวมีประวัติการเป็นมะเร็งลำไส้ หรือโดยเฉพาะในผู้สูงอายุ

 

3.การตรวจการเคลื่อนผ่านของอุจจาระในลำไส้ใหญ่  โดยการกลืนเม็ดยาที่ภายในมีวัสดุทึบแสงแล้ว X-Rayช่องท้องหลังกลืนเม็ดยา 5 วัน โดยหากมีวัสดุทึบแสงหลงเหลืออยู่มากเกินร้อยละ 20 แสดงว่าอุจจาระมีการเคลื่อนผ่านลำไส้ใหญ่ช้ากว่าปกติ

 

4.  การใช้เครื่องตรวจการทำงานของทวารหนักและกล้ามเนื้อที่ควบคุมการขับถ่าย  โดยสอดสายเข้าไปในทวารหนักและวัดความดันในลำไส้แปลผลออกมาเป็นข้อมูล เพื่อดูว่ามีการทำงานผิดปกติหรือไม่

 

5.  การทดสอบการเบ่งลูกโป่ง  โดยใช้ลูกโป่งสำหรับการวินิจฉัยต่อกับสายใส่เข้าไปทางทวารหนัก แล้วใส่น้ำเข้าลูกโป่ง 50 มิลลิลิตร เพื่อทดสอบปัญหาในการเบ่งของผู้ป่วย หากผู้ป่วยไม่สามารถเบ่งลูกโป่งออกมาภายใน 3 นาที ก็สามารถตั้งข้อสงสัยได้ว่าผิดปกติ

 

 

ท้องผูกมีผลต่อสุขภาพของผู้สูงอายุอย่างไร :

อาการท้องผูกสามารถส่งผลกระทบต่อสุขภาพของผู้สูงอายุได้มากกว่าที่คิด รวมถึงเป็นสัญญาณเตือน และ ต้นเหตุของโรคต่างๆด้วย มีอะไรบ้างมาลองดูกัน

1. ภาวะซึมเศร้า  การท้องผูกอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้คนที่มากอายุมีโอกาสเสี่ยงต่อภาวะซึมเศร้ามากขึ้น เนื่องจากมีผลกระทบต่อระบบประสาทและสารเคมีในสมอง

2. ปัญหาในระบบย่อยอาหาร  อาการท้องผูกสามารถทำให้ระบบย่อยอาหารมีปัญหา ผู้สูงอายุหลายคนอาจพบปัญหาในการดูดซึมสารอาหารที่จำเป็นสำหรับร่างกาย นำมาซี่งโรคที่เกิดกับระบบย่อยอาหารได้ เช่น มะเร็งกระเพาะอาหาร เป็นต้น

3. ปัญหาในระบบทางเดินอาหาร  อาการท้องผูกอาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคที่เกี่ยวกับทางเดินอาหารได้ เนื่องจากเมื่ออาหารหรือของเสียไม่สามารถขับถ่ายออกมาได้ ทำให้คงค้างอยู่ในร่างกายนานเกินไป อาจทำให้เกิดโรคมะเร็งลำไส้ได้

4.  ริดสีดวงทวาร  เป็นอาการที่มีสาเหตุจากภาวะท้องผูกเป็นระยะเวลานาน เกิดจากภาวะหลอดเลือดดำบริเวณทวารหนักโป่งพองและบวม ส่งผลให้เกิดอาการเจ็บเมื่อขับถ่าย และหากอักเสบจะทำให้เจ็บปวดมากจนไม่สามารถนั่งได้เลยทีเดียว

 

 

วิธีการป้องกันท้องผูก :

1. ออกกำลังกายอย่างเป็นประจำ  การออกกำลังกายที่เหมาะสมจะช่วยเสริมสร้างระบบย่อยอาหารและส่งเสริมการเคลื่อนตัวของลำไส้ให้มีประสิทธิภาพขึ้น ซึ่งจะช่วยให้ความเสี่ยงในการเกิดอาการท้องผูกน้อยลง

2. รักษาโภชนาการที่ดี  การบริโภคอาหารที่มีเส้นใยอาหารมาก และดื่มน้ำให้เพียงพอ เป็นสิ่งสำคัญมากในการป้องกันท้องผูก เนื่องจากจะสามารถช่วยระบบย่อยอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ

3. รักษาน้ำหนักที่เหมาะสม  การควบคุมน้ำหนักตัวอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมจะช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นท้องผูกได้เป็นอย่างดี

4. ระบบภูมิคุ้มกัน  การดูแลระบบภูมิคุ้มกันโดยการบริโภคอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุ เช่นวิตามินซี จะสามารถช่วยให้ระบบของร่างกายเกิดความสมดุล ลดอาการท้องผูกได้

 

การรักษาอาการท้องผูก :

1. การใช้ยา  เราสามารถใช้ยาเพื่อรักษาอาหารท้องผูกได้ในหลายกรณี เช่น ยาช่วยกระตุ้นการเคลื่อนไหวของลำไส้ , ยาที่มีฤทธิเพิ่มปริมาณอุจจาระ , ยาระบายหรือยากระตุ้นการถ่ายอุจจาระ

2. ปรับเปลี่ยนรูปแบบการทานอาหาร  การรับประทานอาหารที่มีใยอาหารและผลไม้สด จะช่วยเพิ่มปริมาณไอออนและความอุดมสมบูรณ์ในระบบย่อยอาหารได้

 

3. ควบคุมความเครียด  ความเครียดสามารถเป็นสาเหตุของท้องผูกได้ ดังนั้นการใช้เทคนิคลดความเครียดอาจช่วยลดอาการท้องผูกลงได้สำหรับผู้สูงอายุด้วย

 

อาการท้องผูกไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยสำหรับผู้สูงอายุ การรักษาสุขภาพและการรับประทานอาหารที่ดีมีประโยชน์มีกากใยมาก รวมไปถึงการดื่มน้ำให้เยอะ อาจเป็นทางเลือกที่ดีเพื่อรักษาสุขภาพของผู้สูงอายุในการป้องกันปัญหาท้องผูกและระบบย่อยอาหารที่เป็นปัญหาสำคัญสำหรับกลุ่มนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพนั่นเอง

 

หากท่านมีข้อสงสัยสามารถขอคำปรึกษาได้จากแพทย์เฉพาะทาง

โรงพยาบาลเชียงใหม่ รามได้ที่ โทร.052-004699