โรงพยาบาลเชียงใหม่ ราม chiangmai ram hospital
ENG
ไทย
ENG
ไทย
Toggle navigation
หน้าแรก
(current)
ข่าวสาร
(current)
แพทย์
ค้นหาแพทย์
นัดแพทย์
บริการสำหรับผู้ป่วย
มีเดีย
วารสาร
รายการ TV
บทความสุขภาพ
INFOGRAPHIC
การรักษา
ศูนย์เฉพาะทาง
แผนก
เชียงใหม่ ราม เฮลท์ แอปพลิเคชัน
สิ่งอำนวยความสะดวก
ห้องพักผู้ป่วยใน
บริการอื่นๆ
แพ็กเกจ
แพ็คเกจและโปรโมชั่น
แพ็คเกจคลอด
บริการซื้อแพ็คเกจออนไลน์
เกี่ยวกับเรา
(current)
ติดต่อเรา
ติดต่อเรา
สมัครงาน
Customer Concerns
ค้นหาแพทย์
นัดแพทย์
มีเดีย
วารสาร
รายการ TV
บทความสุขภาพ
INFOGRAPHIC
การรักษา
ศูนย์เฉพาะทาง
แผนก
เชียงใหม่ ราม เฮลท์ แอปพลิเคชัน
สิ่งอำนวยความสะดวก
ห้องพักผู้ป่วยใน
บริการอื่นๆ
แพ็คเกจและโปรโมชั่น
แพ็คเกจคลอด
บริการซื้อแพ็คเกจออนไลน์
ติดต่อเรา
สมัครงาน
Customer Concerns
หน้าแรก
มีเดีย
บทความสุขภาพ
ภาวะนอนกรนส่งผลต่อสมองอย่างไร
ภาวะนอนกรนส่งผลต่อสมองอย่างไร
October 31 / 2023
ขึ้นชื่อว่าการนอนกรนหลายคนคงไม่อยากยอมรับ เพราะนอกจากจะสร้างความน่ารำคาญให้คนข้างกายแล้ว ยังดูน่าอายต่อสายตาคนอื่น แต่หลายคนคงไม่ทราบว่า จริงๆแล้ว อาการนอนกรนยังเป็นอันตรายต่อสุขภาพกว่าที่คิด เนื่องจากอาจส่งผลต่อสมองของเราได้ ซึ่งมีการวิจัยหลายชิ้นที่พบว่ามีผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการนอนกรนต่อการทำงานของการรับรู้และสุขภาพสมองโดยรวม วันนี้เราจะมาเจาะลึกว่าการนอนกรนส่งผลต่อสมองอย่างไร และเหตุใดจึงจำเป็นต้องแก้ไขปัญหานี้กันบ้าง
อาการพื้นฐานของการนอนกรน :
ก่อนที่เราจะพูดถึงผลกระทบของการนอนกรนต่อสมอง สิ่งสำคัญคือต้องทำความเข้าใจว่าอะไรเป็นสาเหตุของการนอนกรน การกรนเกิดขึ้นเมื่อการไหลเวียนของอากาศผ่านปากและลำคอถูกปิดกั้นบางส่วนระหว่างการนอนหลับ การอุดตันนี้อาจเกิดจากปัจจัยหลายประการ รวมถึงกล้ามเนื้อคอที่ผ่อนคลาย น้ำหนักส่วนเกิน หรือความผิดปกติของโครงสร้างในทางเดินหายใจ เมื่อบุคคลหายใจเข้าและออก ทางเดินหายใจที่ตีบแคบจะทำให้เนื้อเยื่อโดยรอบสั่นสะเทือน ส่งผลให้เกิดเสียงกรนที่มีลักษณะเฉพาะ
บทบาทของสมองต่อการนอนหลับ :
เพื่อทำความเข้าใจว่าการนอนกรนส่งผลต่อสมองอย่างไร เราต้องชื่นชมบทบาทของสมองในการควบคุมการนอนหลับเสียก่อน สมองควบคุมวงจรการนอนหลับและตื่นผ่านเครือข่ายเซลล์ประสาท สารสื่อประสาท และฮอร์โมนที่ซับซ้อน การนอนหลับแบ่งออกเป็นหลายระดับ รวมถึงช่วง REM (Rapid Eye Movement) ซึ่งจะเป็นระดับที่มีการเคลื่อนไหวของดวงตาอย่างรวดเร็ว และสมองจะยังทำงานทำให้เกิดการฝัน รวมไปถึงการนอนหลับแบบไม่ REM ซึ่งแต่ละช่วงทำหน้าที่ที่แตกต่างกันสำหรับการรวบรวมความทรงจำ การประมวลผลทางอารมณ์ และการฟื้นฟูร่างกาย
ผลกระทบของการนอนกรนต่อคุณภาพการนอนหลับ :
วิธีหนึ่งที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อสมองคือการกรนรบกวนรูปแบบการนอนหลับ การกรนสามารถนำไปสู่การตื่นขึ้นบ่อยครั้งตลอดทั้งคืน ส่งผลให้บุคคลไม่สามารถเข้าสู่ขั้นตอนการนอนหลับที่ลึกขึ้นและฟื้นฟูได้ เมื่อการนอนหลับถูกรบกวน สมองจะไม่สามารถทำหน้าที่สำคัญต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และอาจเกิดผลกระทบต่อสมองจนเกิดอาการต่างๆได้ ดังนี้
1. ฟังก์ชั่นการรับรู้ลดลง : การกระจายตัวของการนอนหลับแบบเรื้อรังอาจทำให้ความจำ ความสนใจ และการตัดสินใจลดลง นอกจากนี้ยังอาจส่งผลต่ออารมณ์แปรปรวนและลดความตื่นตัวในระหว่างวัน
2. การรวมหน่วยความจำบกพร่อง : ระยะการนอนหลับลึกมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการรวบรวมความทรงจำและเสริมสร้างการเรียนรู้ การรบกวนการนอนหลับที่เกิดจากการกรนสามารถขัดขวางกระบวนการนี้ ส่งผลต่อความสามารถในการเก็บข้อมูลและเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ
3. ความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของโรคเกี่ยวกับความเสื่อมของระบบประสาท: การศึกษาบางชิ้นชี้ให้เห็นถึงความเชื่อมโยงระหว่างปัญหาการนอนหลับที่เกิดจากการกรน และความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของโรคเกี่ยวกับความเสื่อมของระบบประสาท เช่น โรคอัลไซเมอร์ แม้ว่าจำเป็นต้องมีการวิจัยเพิ่มเติมในพื้นที่นี้ แต่ความเชื่อมโยงก็น่ากังวล
4. ปัญหาในการควบคุมอารมณ์ : คุณภาพการนอนหลับที่ไม่ดีเนื่องจากการกรนสามารถนำไปสู่ความไม่มั่นคงทางอารมณ์และระดับความเครียดที่เพิ่มขึ้น สมองต้องการการพักผ่อนอย่างเพียงพอเพื่อประมวลผลและควบคุมอารมณ์อย่างมีประสิทธิภาพ
5. การรับรู้ลดลง : เมื่อเวลาผ่านไป การนอนกรนเรื้อรังและคุณภาพการนอนหลับที่ไม่ดีอาจส่งผลให้การรับรู้ลดลงและเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะต่างๆ เช่น ภาวะสมองเสื่อม
ผลกระทบต่อสมองจากอาการหยุดหายใจขณะหลับ :
สำหรับผู้ที่นอนกรนจำนวนมาก สาเหตุที่แท้จริงคือภาวะหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้น หรือ OSA (Obstructive Sleep Apnea) คือ ความผิดปกติของการนอนหลับขั้นรุนแรง โดยเกิดจากลักษณะการอุดตันทางเดินหายใจทั้งหมดหรือบางส่วนซ้ำแล้วซ้ำเล่าระหว่างการนอนหลับจากกล้ามเนื้อในช่องคอ,ลิ้นมีการหย่อนไปปิดทางเดินหายใจส่วนตัน ส่งผลให้อาการเหล่านี้อาจนำไปสู่การขาดออกซิเจนและอากาศ ทำให้ไม่สามารถเข้าสู่ปอดไปเลี้ยงสมองและร่างกายได้ คนที่มีอาการนี้จะมีอาการตื่นตัวอย่างกะทันหัน มีภาวะตื่นบ่อย(arousals) มีออกซิเจนต่ำในร่างกาย มีการคั่งของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งส่งผลกระทบอย่างมากต่อสมอง เป็นสาเหตุต่อสุขภาพให้เกิดโรคต่างๆขึ้น ได้แก่
1. ความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของโรคหลอดเลือดสมอง OSA มีความเชื่อมโยงกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของโรคหลอดเลือดสมอง เป็นสาเหตุของโรคหลอดเลือดในสมองตีบ ซึ่งจากการวิจัยพบว่าผู้ป่วยที่เป็นโรคหลอดเลือดในสมองตีบมากกว่า 70% จะมีอาการนอนกรนด้วยนั่นเอง
2. ความบกพร่องทางสติปัญญาบุคคลที่มี OSA มักประสบกับความบกพร่องทางสติปัญญา รวมถึงปัญหาด้านความจำ สมาธิ และทักษะการแก้ปัญหา
3. ความผิดปกติทางอารมณ์ OSA มีความเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของความผิดปกติทางอารมณ์ เช่น ภาวะซึมเศร้าและวิตกกังวล ซึ่งอาจส่งผลต่อสุขภาพสมองเพิ่มเติม
4. การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างสมอง การศึกษาบางชิ้นแสดงให้เห็นว่า OSA สามารถนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างสมอง เช่น การลดลงของปริมาณสารสีเทาในพื้นที่เฉพาะของสมอง
แก้ปัญหาการนอนกรนเพื่อสุขภาพสมอง :
1. การปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต การลดน้ำหนัก หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และยาระงับประสาทก่อนนอน และการนอนตะแคงสามารถช่วยลดการนอนกรนได้
2. การบำบัดด้วย CPAP เครื่องอัดความดันอากาศเชิงบวกอย่างต่อเนื่อง (CPAP) มักใช้เพื่อรักษา OSA โดยการส่งกระแสลมที่สม่ำเสมอเพื่อให้ทางเดินหายใจเปิดระหว่างการนอนหลับ
3. อุปกรณ์ในช่องปาก บางคนอาจได้รับประโยชน์จากอุปกรณ์ทันตกรรมที่ช่วยรักษาทางเดินหายใจที่เปิดกว้างระหว่างการนอนหลับ
4. การผ่าตัด ในกรณีที่รุนแรงของ OSA การผ่าตัดอาจจำเป็นเพื่อแก้ไขปัญหาทางกายวิภาคที่ส่งผลให้นอนกรนและหายใจลำบาก
5. การตรวจสอบการนอนหลับด้วยวิธี Sleep Test เป็นการเช็คปัญหาที่มีจากการนอนด้วยเครื่องมือ และ เกณฑ์ที่น่าเชื่อถือจากผู้เชี่ยวชาญ วิธีนี้จะทำให้สามารถรับรู้ถึงปัญหาที่เกิดขึ้นจากการนอนได้อย่างแม่นยำ นอกจากนี้ยังสามารถได้รับคำแนะนำจากแพทย์ถึงการป้องกันและรักษาได้แต่เนิ่นๆ ไม่ให้เกิดโรคที่เป็นอันตรายลุกลามต่อสุขภาพได้
อาการกรนอาจไม่ใช่เพียงเรื่องเล็กๆอีกต่อไป แต่เป็นสัญญาณบอกเหตุที่อาจเป็นอันตรายกว่าที่เราคิดได้
หากท่านมีข้อสงสัยที่ต้องการปรึกษา สามารถติดต่อกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางได้ที่ ร.พ.เชียงใหม่ ราม โทร. 052-004699