ใคร ๆ ก็อยาก ‘ทำงานด้วยสมอง’ เพราะแสดงให้เห็นว่าเราเองก็ใช้ความคิดในการทำงานนะ แต่จะมีกี่คนที่รู้ว่าจริง ๆ แล้วสมองนั้นทำงานยังไง จริงๆแล้วสมองมีการทำงานที่ซับซ้อน และยังไม่มีใครที่รู้ถึงขั้นตอนการทำงานของสมองโดยสมบูรณ์ถึง 100%
สมองมนุษย์ มีการทำงานร่วมกันหลายส่วนประสานกันจนเป็นวงจรที่สมบูรณ์ด้วยเซลล์สมองจำนวนมากกว่าแสนล้านเซลล์ที่เชื่อมโยงกันเป็นร่างแหขนาดใหญ่ ส่งสัญญาณระหว่างกัน โดยจะแปลการรับรู้ข้อมูลหรือการกระตุ้นจากภายนอก สมองจะส่งสัญญาณออกมาเป็นรูปแบบกระแสไฟฟ้า ผ่านจุดส่งที่เรียกว่า ‘ปลายAxon’ ไปยังจุดรับกระแสประสาทที่เรียกว่า ‘ปลายDendrite’ ซึ่งสมองของมนุษย์มีความยืดหยุ่นมนการทำงานสูงมาก โดยจะมีการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาไปตามการเรียนรู้ ประสบการณ์ที่แต่ละคนได้รับ เรียกได้ว่า หากเซลล์สมองยิ่งมีความซับซ้อนเท่าไหร่ ก็ยิ่งแสดงถึงความฉลาดมากเท่านั้น
สมองของคนเราแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่
- สมองส่วนหน้า (Forebrain) โดยที่ยังแบ่งออกเป็นหลายส่วน เช่น Celebrum ทำหน้าที่เรียนรู้ รับรู้ข้อมูล และ ประมวลผลทางประสาทสัมผัส เป็นต้น ซี่งสมองส่วนหน้ามีขนาดใหญ่ และ มีรอยหยักมากที่สุด
- สมองส่วนกลาง (Midbrain) จะทำหน้าที่ในการเป็นส่วนกลางในการประสานระหว่างสมองส่วนหน้า และ สมองส่วนท้าย อีกทั้งทำหน้าที่เกี่ยวกับการมองเห็น รวมไปถึงการเคลื่อนไหวของลูกตา และ การได้ยินด้วย
- สมองส่วนท้าย (Hindbrain) ทำหน้าที่ด้วย 3 ส่วนหลักๆ ได้แก่
* Celebellum ทำหน้าที่ในการควบคุมการทรงตัว และ การเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อ
* Pons ส่วนนี้คอยทำหน้าที่หลายอย่าง เช่น การเคลื่อนไหวบนใบหน้าจากการสัมผัสและเจ็บปวด , การเคี้ยวอาหาร , การหลั่งของเหลว เป็นต้น
* Medulla ส่วนนี้อยู่บริเวณติดกับไขสันหลังบริเวณท้ายสุดของสมอง จัดเป็นเส้นทางหลักของกระแสประสาท และควบคุมระบบประสาทอัตโนมัติ เช่น การเต้นของหัวใจ , การหายใจ , การย่อยอาหาร , การยืดและหดตัวของเส้นเลือด เป็นต้น
สมอง มีหน้าที่สำคัญและสลับซับซ้อนมากหากเราไม่ดูแลสมองของเราให้ดีอาจทำให้เกิดอาการของ “โรคหลอดเลือดสมอง” หรือ “Stroke” เป็นสาเหตุของอัมพาตเฉียบพลันได้ หากรักษาไม่ทันภายใน 4.5 ชม. ในกรณีที่มีสัญญาณเตือนกับหลอดเลือดสมองคือ “แตก ตีบ ตัน” เกิดขึ้น ทำให้สมองขาดเลือดไปเลี้ยงนั่นเอง
ดังนั้น เราจึงต้องดูแลสมองของเราให้ดีที่สุด ซึ่งหากมีอาการผิดปกติเกิดขึ้นตามที่ได้กล่าวไปข้างต้นแล้ว ทางโรงพยาบาลเชียงใหม่รามก็มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยในการตรวจรักษาโรคหลอดเลือดสมองตีบ ตั้งแต่การตรวจวินิจฉัยโรคด้วยเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT 124 Slices) ที่ทำให้แพทย์สามารถมองเห็นภาพที่มีความละเอียดสูงกว่าการเอกซเรย์แบบปกติ และสามารถประเมินประสิทธิภาพในการไหลเวียนของหลอดเลือดได้อย่างแม่นยำ ไปจนถึงการรักษาและฟื้นฟูผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองตีบแบบไม่ต้องผ่าตัด โดยเป็นการให้ยาสลายลิ่มเลือดในเบื้องต้น หลังจากนั้นจะทำการสลายลิ่มเลือดโดยการสอดสายสวน (Catheter) จากบริเวณขาหนีบเข้าไปยังหลอดเลือดแดงในสมองตรงบริเวณที่มีลิ่มเลือดอุดตันอยู่ ก่อนที่แพทย์จะดึงลิ่มเลือดออกมาเพื่อไม่ให้ผู้ป่วยต้องอยู่ในภาวะอัมพฤกษ์อัมพาต ซึ่งการรักษาด้วยวิธีการนี้จะทำให้ผู้ป่วยใช้เวลาพักฟื้นไม่นาน มีความปลอดภัยมากขึ้น ลดอัตราเสี่ยง และสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างเป็นปกติกับคนที่เรารักได้อย่างยาวนานต่อไป