รู้จักโรคเบาหวาน ชื่อเบาเบาแต่ร้ายไม่เบา

 

เพราะโรคเบาหวาน เป็นโรคที่รักษาไม่หายขาด ทำให้ผู้ป่วยโรคเบาหวานต้องทุกข์ทรมานกับคุณภาพชีวิตที่แย่ลง ที่สำคัญโรคเบาหวาน ยังเป็นได้ทุกเพศทุกวัยตั้งแต่เด็กจนถึงวัยชรา แต่พบมากที่สุดในคนอายุ 40 ปีขึ้นไป สถิติในประเทศไทยพบว่า คนไทยทุก 100 คนจะมี 7-8 คน ที่เป็นโรคเบาหวาน …น่ากลัวกว่านั้น คือ ยังมีผู้ป่วยอีกมาก ที่ไม่รู้ว่าตัวเองเป็น “โรคเบาหวาน”

 

 

 

ตามไปเช็ค 8 สัญญาณอาการเตือนของโรคเบาหวาน ที่อาจกำลังเวลารอจัดการคุณอยู่ 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

สาเหตุของอาการเบาหวาน

 

หิวน้ำและปัสสาวะบ่อย โดยเฉพาะตอนกลางคืน?

• ​เพราะร่างกายของผู้ป่วยโรคเบาหวานต้องการขับน้ำตาลที่มีอยู่สูงในเลือด ออกมาทางปัสสาวะ

น้ำหนักลดเร็ว?

• เพราะน้ำตาลในเลือดสูง จะทำให้ผู้ป่วยโรคเบาหวานน้ำหนักลดลงเร็วมาก ประมาณ 5-10 กิโลภายใน 2-3 เดือน

หิวบ่อย กินจุบจิบ?

• เพราะเมื่อระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยโรคเบาหวานต่ำ ทำให้ร่างกายต้องการอาหาร เพื่อเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือด

แผล เช่น มีดบาด การติดเชื้อ หรือรอยฟกช้ำหายช้ามาก?

• เพราะผู้ป่วยโรคเบาหวานมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงจึงไปขัดขวางการทำงานของหลอดเลือด

อ่อนเพลีย หงุดหงิดง่าย?

• เพราะผู้ป่วยโรคเบาหวานระดับน้ำตาลในเลือดสูง จะส่งผลต่อการทำงานทุกระบบรวมถึงอารมณ์ด้วย

 

 

เบาหวาน กับ อินซูลิน

 

โรคเบาหวานเกิดขึ้นจากหลายสาเหตุ ที่สำคัญเลยคือการรับประทานน้ำตาลและไขมันมากเกินไป จนส่งผลให้อินซูลินฮอร์โมนสำคัญตัวหนึ่งของร่างกายผิดปกติ ซึ่งถ้าขาดอินซูลินหรืออินซูลินการออกฤทธิ์ไม่ดี ร่างกายก็จะใช้น้ำตาลไม่ได้ จึงทำให้น้ำตาลในเลือดสูงจนกลายเป็นสาเหตุหลักของโรคเบาหวาน นอกจากนี้ โรคเบาหวานมีสาเหตุอื่นๆ อีกด้วย

 

โรคเบาหวาน กับสาเหตุอื่นๆ

 

• กรรมพันธุ์ ทำให้มีโอกาสป่วยเป็นโรคเบาหวานได้ส่วนหนึ่ง แต่ถ้าดูแลตัวเองให้ดีก็ปลอดภัยจากโรคนี้ได้
• ความอ้วน ร้อยละ 80 ของคนที่เป็นโรคอ้วนส่วนใหญ่มักเสี่ยงต่อโรคเบาหวาน เพราะไขมันส่วนเกินจะทำให้เกิดอาการดื้ออินซูลิน
• ความผิดปกติของตับอ่อน เพราะตับอ่อนทำหน้าที่ผลิตอินซูลิน ถ้าหากตับอ่อนเสื่อมสภาพ โอกาสเกิดโรคเบาหวานก็จะตามมา ซึ่งคนที่ดื่มเหล้าจัดตับอ่อนมีโอกาสเสื่อมจึงเสี่ยงโรคเบาหวานด้วย​
• กินอาหารไม่มีประโยชน์ เต็มไปด้วยแป้ง ไขมัน และน้ำตาล มากเกินที่ร่างกายกำจัดได้
• ออกกำลังน้อย ร่างกายก็กำจัดน้ำตาลได้น้อย ทำให้น้ำสะสมในเลือดมาก

 

 

โรคเบาหวานภายนอกดูไม่เป็นไร

แต่ภายในอาจกำลังแสดงอาการ ต้องดูให้เป็นและรักษาให้ทัน 

 

---

ใครบ้างเสี่ยงและต้องตรวจหาโรคเบาหวาน?

 

• ผู้ที่มีอายุเกิน 45 ปี ควรตรวจระดับน้ำตาลในเลือด เพื่อหาความเสี่ยงต่อโรคเบาหวานทุก 3 ปี​
• อ้วน (ดัชนีมวลกายมากกว่า 25 kg/m2 หรือเส้นรอบเอวในผู้ชายมากกว่า 90 ซม. หรือผู้หญิงมากกว่า 80 ซม.)​
• มีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคเบาหวาน​
• เคยคลอดลูกคนแรกที่มีน้ำหนักมากกว่า 4 กก.​
• ความดันโลหิตสูง​
• มีโรคหัวใจและหลอดเลือด​
• ไขมันในเลือด ชนิด HDL น้อยกว่า 35 มก./ ดล.​
• เคยมีประวัติของการตรวจความทนน้ำตาลกลูโคส แล้วผิดปกติ

 

---

 

​อยากรู้เป็นโรคเบาหวานไหม? ต้องตรวจอะไรบ้าง?

 

• ตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือด ขณะอดอาหาร(fasting plasma glucose; FPG) : งดอาหารก่อนเจาะเลือด 8 ชม.ช
• ตรวจเลือดปลายนิ้ว (capillary fasting blood glucose) ถ้าระดับน้ำตาลในเลือด (FPG) สูงกว่า126 มก./ดล.ให้ทำซ้ำอีกครั้ง ถ้ายังสูงกว่า126 มก./ดล.ถือว่าเป็นเบาหวาน ในกรณีที่ตรวจวัดได้ 100-125 ให้จัดว่าเป็นผู้ป่วยที่มีระดับน้ำตาลผิดปกติ แต่ยังไม่เป็นโรคเบาหวาน และควรจะตรวจซ้ำทุก 1-3 ปี
• ตรวจความทนต่อน้ำตาลกลูโคส โดยให้ดื่มน้ำตาลกลูโคส ถ้าทำการตรวจระดับน้ำตาลหลังจากดื่มไปแล้ว 2 ชั่วโมง ยังสูงกว่า 200 มก./ดล.ก็ถือว่าเป็นเบาหวาน

​

---

 

ถ้าเป็นโรคเบาหวานอยู่แล้ว ต้องรีบตรวจคัดครองหาโรคแทรกซ้อน เพราะโรคเบาหวานไม่แสดงอาการให้รู้

 

• ตรวจจอตา อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เพราะปริมาณน้ำตาลที่สูงอาจทำลายจอตาทำให้ตาบอดได้ ที่น่ากลัวคือผู้ป่วยโรคเบาหวานจะไม่แสดงอาการให้เห็น ต้องตรวจจอตาจึงจะเจอ​
• ตรวจไมโครอัลบูมินในปัสสาวะ เพราะไตของผู้ป่วยโรคเบาหวานจะเสื่อมลงตามระยะเวลาที่เป็นเบาหวาน​
• ตรวจหัวใจ เพราะผู้เป็นเบาหวานทุกคน เสี่ยงที่จะเป็นหลอดเลือดหัวใจตีบ บางรายอาจมีอาการกล้ามเนื้อหัวใจเน่าตายโดยไม่มีแสดงอาการรุนแรง แต่สามารถตรวจพบได้ด้วยคลื่นไฟฟ้าหัวใจ

 

---

 

มารักษา โรคเบาหวานกันเถอะ

 

เพราะโรคเบาหวานรักษาไม่หายขาด การดูแลรักษาอาการที่ถูกต้องโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจึงจำเป็นมาที่สำคัญความร่วมมือจากญาติผู้ดูแลก็เป็นอีกหนทางที่ทำให้อาการของผู้ป่วยดีขึ้น โดยมีวิธีการรักษาหลักคือ โภชนบำบัด การรักษาด้วยยา และการตรวจติดตามแพทย์นัดอย่างสม่ำเสมอ

 

โรงพยาบาลเชียงใหม่ราม พร้อมให้คำปรึกษา และรักษาผู้ป่วยโรคเบาหวาน ด้วยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและมากประสบการณ์ ด้วยเทคโนโลยีรักษาที่ทันสมัย วินิจฉัยและตามความเหมาะสมของผู้ป่วยแต่ละคนเพื่อให้ได้ผลที่ดีที่สุด 

 

 

=======================================================================

 

อย่าปล่อยให้โรคเบาหวานทรมานร่างกายคนที่คุณรัก

รีบตรวจตั้งแต่วันนี้ เพราะโรคเบาหวานไม่ใช่แค่โรคเบาๆ

ปรึกษาทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรงพยาบาลเชียงใหม่-ราม เราพร้อมดูแล 24 ชม.

โทร. 053–920300

 

=========================================================================